ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมองหาทางเลือกที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจยังลังเลว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะตอบโจทย์การใช้งานจริงหรือไม่ เพราะแม้จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน วันนี้ Grab จะพาไปดูทั้งข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า และข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบ และช่วยให้การตัดสินใจเลือกซื้อรถไฟฟ้าคันแรกของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น
Highlight
- ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?
- ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า
- แรงบิดทันที
- เทคโนโลยีล้ำสมัย
- ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?
- ใช้ระยะเวลาการชาร์จนานกว่าการเติมน้ำมัน
- ราคาสูงกว่ารถยนต์สันดาปบางรุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่ ระยะทางไกล
- มูลค่าการขายต่อ ตลาดมือสองอาจจะยังไม่แน่นอน รวมถึงราคาจะยังไม่นิ่ง

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?
มาดูข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าไปพร้อมกันว่า มีอะไรบ้าง ทำไมถึงควรหันมาขับรถไฟฟ้า
-
ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า
รถไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง หรือดูแลระบบท่อไอเสีย มีชิ้นส่วนที่สึกหรอน้อยกว่า ทำให้โอกาสซ่อมเสียลดลงมาก ผลลัพธ์คือเจ้าของรถประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาเข้าศูนย์บริการระยะยาว
-
แรงบิดทันที
มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถปล่อยกำลังได้เต็มตั้งแต่กดคันเร่งแรก ทำให้การออกตัวไว เร่งแซงได้มั่นใจ ไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์ การขับขี่จึงสนุก คล่องตัว และตอบสนองได้ดีกว่ารถสันดาป
-
เทคโนโลยีล้ำสมัย
อีกหนึ่งข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า คือ รถ EV มักติดตั้งระบบช่วยขับขั้นสูง เช่น ระบบเซนเซอร์, กล้อง 360°, ระบบเบรกอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลมักเป็นจอสัมผัสขนาดใหญ่ พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ออนไลน์ (OTA) ผู้ใช้จึงได้สัมผัสประสบการณ์ที่ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?
ดูประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว มาดูข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้ากันบ้าง
-
ราคาสูงกว่ารถยนต์สันดาปบางรุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่ ระยะทางไกล
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจทำให้หลายคนลังเลว่า จะซื้อดีไหม คงหนีไม่พ้นเรื่องราคาแบตเตอร์รี่ เพราะถึงแม้ว่า ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มลดลง แต่โดยทั่วไปแล้วแบตเตอร์รี่รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูง เพราะต้นทุนของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ยังมีราคาสูง
-
2. ใช้ระยะเวลาการชาร์จนานกว่าการเติมน้ำมัน
ถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จะสามารถวิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ก็ยังถือว่า สั้นกว่ารถที่ใช้น้ำมัน ซึ่งสามารถขับได้ไกลกว่ามากต่อการเติมเชื้อเพลิงเพียงครั้งเดียว จึงอาจเป็นข้อเสียของรถไฟฟ้าสำหรับใครที่ต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ แต่ถึงแม้ต้องใช้เวลาชาร์จหลายสิบนาทีถึงชั่วโมง แต่ก็สามารถวางแผนชาร์จระหว่างพักหรือชาร์จที่บ้านได้ ต่างจากการเติมน้ำมันที่เร็วทันใจ แต่ก็สามารถปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับตารางชีวิตประจำวัน
มูลค่าการขายต่อ ตลาดมือสองอาจจะยังไม่แน่นอน รวมถึงราคาจะยังไม่นิ่ง
มูลค่าขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดมือสองยังมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ซื้อกังวลเรื่องอายุการใช้งานและค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ อีกทั้งเทคโนโลยีของรถ EV รุ่นใหม่พัฒนาเร็ว ส่งผลให้รุ่นเก่าตกเทรนด์และราคาตกเร็ว ขณะเดียวกันนโยบายส่งเสริมรถ EV ของภาครัฐที่ทำให้ราคารถใหม่ลดลงก็ยิ่งกดดันตลาดมือสองให้ราคายังไม่นิ่ง นอกจากนี้ตลาดรถ EV มือสองในไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่สูงมาก และดีลเลอร์บางรายยังไม่กล้ารับซื้อรถทุกยี่ห้อ จึงทำให้มูลค่าขายต่อของรถ EV ยังไม่มั่นคงเหมือนรถยนต์น้ำมันทั่วไปในปัจจุบัน
เมื่อรู้ข้อดี และข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แล้ว คงทำให้หลายคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า จะเลือกเปลี่ยนมาขับรถไฟฟ้าดีหรือไม่ สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นอาชีพขับ GrabEV มาเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับเราที่ให้เงื่อนไขสุดคุ้มค่า ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนหรือเช่าแบบรายวัน พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ฟรีประกันภัย ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน
และไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น สำหรับสายสองล้อ มีให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขับแกร็บ โดยให้เลือกแผนการเช่าได้ตามพื้นที่ ตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัว และค่าใช้จ่ายสุดประหยัด พร้อมบริการสถานีสลับแบตเตอรี่ที่ครอบคลุม ช่วยให้ขี่ไกลอย่างไร้กังวล
FAQ:
Q: แบตรถ EV อายุการใช้งานกี่ปี?
A: แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานประมาณ 10 – 20 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยใช้งาน และการดูแลรักษา เช่น การชาร์จ การขับขี่ และสภาพอากาศ
Q: รถไฟฟ้า EV วิ่งได้ไกลแค่ไหนต่อการชาร์จ?
A: ขึ้นอยู่กับรุ่น และขนาดแบตเตอรี่ ปกติรถไฟฟ้ารุ่นใหม่วิ่งได้ประมาณ 300 – 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
Q: ขับแกร็บ EV รับงานแบบไหนได้บ้าง?
A: สามารถรับงานได้หลากหลายทั้ง JustGrab, GrabTaxi และ GrabSUV, GrabCar Premium (ขึ้นกับรุ่นรถ) รวมถึงรับงานสนามบิน หรือบริการรายทาง
Q: GrabEV รถยนต์ สัญญาเช่าระยะยาว และสั้นต่างกันอย่างไร?
A: เลือกได้ทั้งสัญญาระยะยาว (5 – 7 ปี) สำหรับผ่อนขับ หรือสัญญาระยะสั้น (3 – 12 เดือน) สำหรับเช่าขับ
Q: ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถขับ GrabEV เริ่มต้นวันละเท่าไหร่?
A: ค่าเช่ารถ EV เริ่มต้นเพียงวันละ 880 บาท
แหล่งอ้างอิง:
[รถยนต์] GrabEV “ผ่อนขับรับรถ” หรือ “เช่าครบจบบนแอป” จาก Grab