ปัจจุบันเทรนการขายอาหารออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชัน เดลิเวอรี่ หรือ Grab เป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะมีหน้าร้านหรือไม่มีก็ตาม เพราะมีความสะดวกสบายในการจัดส่งให้กับลูกค้า และโปรโมท ทำการตลาดต่าง ๆ ให้ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีเปิดร้านขายเป็นอาชีพหลัก หรือบางครั้งหลาย ๆ คนก็เลือกเปิดขายเป็นอาชีพเสริม เรามาดูกันว่า หากต้องการสมัครแกร็บร้านค้าเสียค่าอะไรบ้าง และจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?
Highlight
- GrabMerchant มีบริการอะไรบ้าง
- ขั้นตอนสมัครแกร็บ GrabMerchant มีอะไรบ้าง
- สมัคร GrabMerchant ที่ศูนย์อบรมแกร็บสาขาย่อย ทำอย่างไร
- สมัครแกร็บร้านค้ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
- สมัคร GrabMerchant แล้วดีอย่างไร

GrabMerchant มีบริการอะไรบ้าง
GrabMerchant คือแพลตฟอร์มสำหรับร้านค้าที่แกร็บใช้ในการให้บริการทั้งเดลิเวอรี เพื่อมอบสิทธิประโยชน์แก่พาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood, GrabMart โดยฟีเจอร์บน GrabMerchant จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านอาหารบนแพลตฟอร์ม การบริหารจัดการร้านในแต่ละวัน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อยอดธุรกิจ
-
GrabFood
-
จุดเด่นของ GrabFood
-
คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมร้านอาหารยอดนิยม และร้านต่าง ๆ ในห้างสรรพสินค้าไว้ในแอปฯ Grab เพื่อให้คุณสามารถเลือกสั่งอาหารผ่านแอปฯ โดยไม่ต้องเดินทาง เพราะคนขับของเราจะไปส่งอาหารถึงหน้าบ้านคุณ
-
-
- สถานที่ตั้งของร้าน: ต้องมีสถานที่ตั้งที่ชัดเจนและสามารถให้บริการได้ โดยที่ไรเดอร์สามารถไปรับอาหารได้อย่างสะดวก
- การจัดการออร์เดอร์ออนไลน์: ร้านค้าต้องมีความสามารถในการรับและจัดการออร์เดอร์ออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และถูกต้อง
- การเงิน: อาจมีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมในการสมัครและดำเนินการกับ GrabFood ซึ่งต้องเตรียมต้นทุนด้านนี้
- คุณภาพอาหารและบริการ: ควรมีมาตรฐานด้านคุณภาพของอาหารและบริการที่ดีเพื่อให้ตรงตามความคาดหวังของลูกค้าคุณสมบัติที่ต้องมีในการสมัคร GrabFood
-
แกร็บฟู้ดนับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายที่ดีมาก ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้มากยิ่งขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่รวดเร็วและกว้างขวาง และที่สำคัญคือสามารถจัดการหน้าร้านได้เอง เพิ่มเมนู ปรับราคาสินค้าได้ตามต้องการ
-
GrabMart
-
จุดเด่นของ GrabMart
-
เป็นบริการฝากซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต/ร้านสะดวกซื้อ ให้คุณสามารถสั่งซื้อสินค้า เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ส่วนตัว และสินค้าอื่นๆ อีกมากมายผ่านแอปฯ Grab แล้วเราจะนำไปส่งถึงบ้านคุณ โดยที่คุณไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้อสินค้าเอง
-
-
คุณสมบัติที่ต้องมีในการสมัคร GrabMart
-
-
-
- สถานที่ตั้งของร้าน: ต้องมีสถานที่ตั้งที่ชัดเจนและสามารถให้บริการได้ โดยที่ไรเดอร์สามารถไปรับอาหารได้อย่างสะดวก
- คุณภาพสินค้าและบริการ: ควรมีมาตรฐานด้านคุณภาพของสินค้าและบริการที่ดีเพื่อให้ตรงตามความคาดหวังของลูกค้า
- การจัดการคลังสินค้า: ต้องมีการจัดการคลังสินค้าที่ดีและสามารถรองรับการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
-

ขั้นตอนสมัครแกร็บ GrabMerchant
สมัคร GrabMerchant ด้วยตัวเอง
-
สมัครแกร็บร้านค้าทางเว็บไซต์
- ลงทะเบียนเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood ผ่านแอป GrabMerchant ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
- กรอกแบบฟอร์มข้อมูลร้านค้า พร้อมแนบเอกสารการสมัคร
- แจ้งเตือนผลการสมัครผ่านทางแอปเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว
- เซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายๆ ผ่านทางแอป GrabMerchant
- รับอีเมลเพื่อศึกษาวิธีการเปิดระบบพาร์ทเนอร์ร้านค้า และเรียนรู้การใช้งาน
- เข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างเมนูอาหาร และเปิดสถานะร้านค้าเตรียมพร้อมรับออเดอร์ของคุณได้เลย
-
สมัครแกร็บร้านค้าผ่านแอป (พร้อมวิธี)
- ลงทะเบียนเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood ผ่านแอป GrabMerchant ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
- กรอกแบบฟอร์มข้อมูลร้านค้า พร้อมแนบเอกสารการสมัคร
- แจ้งเตือนผลการสมัครผ่านทางแอปเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว
- เซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายๆ ผ่านทางแอป GrabMerchant
- รับอีเมลเพื่อศึกษาวิธีการเปิดระบบพาร์ทเนอร์ร้านค้า และเรียนรู้การใช้งาน
- เข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างเมนูอาหาร และเปิดสถานะร้านค้าเตรียมพร้อมรับออเดอร์ของคุณได้เลย
สมัคร GrabMerchant ที่ศูนย์อบรมแกร็บสาขาย่อย
สมัครได้ง่าย ๆ ที่ศูนย์อบรมแกร็บสาขาใกล้บ้านคุณ สะดวก รวดเร็ว สามารถเปิดระบบได้ภายใน 7 วัน พร้อมกับผู้ช่วยที่คอยประสานงานให้คุณตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครจนถึงเปิดร้านบนแอปฯ GrabMerchant
เอกสารที่ต้องเตรียม
-
สำหรับคนไทย บุคคลธรรมดา
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (สถานะบัตรเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
-
สำหรับคนไทย นิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.20)
- สำเนาบัตรประชาชนกรรมการบริษัท (สถานะบัตรเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
- ใบมอบอำนาจ (ในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่กรรมการบริษัทตามหนังสือรับรองระบุ)
-
สำหรับชาวต่างชาติ บุคคลธรรมดา
- สำเนาหนังสือเดินทาง (สถานะหนังสือเดินทางเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- สำเนาเอกสารอนุญาตประกอบอาชีพในประเทศไทย
- สำเนาหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
- สำเนาเอกสารแสดงที่พำนักในประเทศไทย เช่น สัญญาเช่าบ้าน บิลค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำหรือค่าไฟ
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
-
สำหรับชาวต่างชาติ นิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.20)
- สำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการบริษัท
- สำเนาหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
- ใบมอบอำนาจ (ในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่กรรมการบริษัทตามหนังสือรับรองระบุ)
หมายเหตุ : เอกสารทุกฉบับจะต้องมีลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องตามกำหนด และสำหรับนิติบุคคล ผู้มีอำนาจจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ พร้อมประทับตราสำคัญบริษัท
สมัคร GrabMerchant แล้วดีอย่างไร
- ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
- ไม่จำกัดแค่ลูกค้าที่เดินผ่านหน้าร้านอีกต่อไป GrabMerchant ช่วยให้ร้านของคุณเข้าถึงผู้ใช้ Grab ทั่วทั้งเมือง ลูกค้าสามารถสั่งอาหารหรือสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา เพิ่มโอกาสขายแบบก้าวกระโดด
- เพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ทันใจ
- เมื่อลูกค้าสั่งง่ายขึ้น โอกาสขายก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ยอดขายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมให้ร้านของคุณ
- ไม่ต้องลงทุนระบบเดลิเวอรี่เอง
- หมดกังวลเรื่องการจัดส่ง Grab มีพาร์ทเนอร์คนขับครอบคลุมทั่วเมือง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานส่งเอง หรือบริหารจัดการรถเอง ประหยัดทั้งเงินและเวลา
- เครื่องมือจัดการร้านครบ จบในแอปเดียว
- แอป GrabMerchant ช่วยให้คุณบริหารออเดอร์ จัดการเมนู กำหนดเวลาเปิด-ปิดร้าน สร้างโปรโมชั่น และตรวจสอบยอดขายได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว
- โปรโมทร้านง่าย ๆ ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ
- ร้านของคุณจะแสดงผลบนแพลตฟอร์ม Grab ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ถือเป็นการโปรโมทร้านและเพิ่มการมองเห็นโดยตรง โดยไม่ต้องเสียค่าการตลาดสูง ๆ
- ระบบการเงินชัดเจน สะดวกและปลอดภัย
- Grab มีระบบชำระเงินและโอนเงินที่โปร่งใส ตรวจสอบง่าย ช่วยให้จัดการรายรับของร้านได้สะดวกและมั่นใจ
- ข้อมูลเชิงลึกช่วยพัฒนาธุรกิจ
- แอป GrabMerchant แสดงข้อมูลยอดขาย สินค้ายอดนิยม และช่วงเวลาที่ลูกค้าสั่งเยอะ ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า วางแผนการตลาด และปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมัครแกร็บร้านค้ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
เรามีการเก็บค่าบริการรายเดือนซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นจากยอดขายผ่าน GrabFood หรือ GrabMart เท่านั้น แต่ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือค่าสมัครแต่อย่างใดทั้งสิ้น การสมัครแกร็บร้านค้าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมเมนูให้พร้อม เอกสารให้ครบ ก็สามารถสมัคร GrabMerchant ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางที่แกร็บกำหนด หรืออยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ https://www.grab.com/th/merchant/
คำถามที่พบบ่อย
Q : Grab จ่ายเงินร้านค้ายังไง?
A: แนะนำเริ่มต้นด้วย 5-10 เมนูที่ทำได้คล่อง มีวัตถุดิบคล้ายกันเพื่อลดต้นทุนและความยุ่งยาก เน้นเมนูที่ถนัด ทำได้เร็ว
Q : ค่าคอมมิชชั่นของ Grab คิดอย่างไร?
A: ค่าคอมมิชชันของ Grab แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริการ โดยร้านอาหารและพาร์ทเนอร์ GrabFood จะถูกหักสูงสุด 30% ของมูลค่าออเดอร์ ส่วนผู้ขับขี่ Grab จะถูกหักค่าคอมมิชชันจากรายได้ไม่เกิน 25% ของค่าโดยสาร และ GrabExpress มีค่าบริการ 15-25% ขึ้นอยู่กับประเภทบริการ
Q : ขับแก๊ปเช็คประวัติไหม?
A: ทางบริษัทฯ มีนโยบายตรวจสอบประวัติอาชญากรรมย้อนหลังผู้ให้บริการทุกท่าน โดยหากท่านใดที่เคยมีประวัติตามรายการด้านล่าง ภายในระยะเวลา 5 ปี จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ผ่านเกณฑ์นี้
Q : ค่าลงทะเบียนแกร็บกี่บาท?
A: การสมัครขับแกร็บมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในตอนแรกคือ ค่าลงทะเบียน และ ค่าแพ็กเกจ ซึ่งจะถูกหักจากกระเป๋าเงินสดในแอปพลิเคชันทันทีหลังเปิดระบบ โดยคนขับรถจักรยานยนต์จะเสีย 200 บาท และคนขับรถยนต์จะเสีย 300 บาท ส่วนร้านค้าไม่มีค่าสมัครแรกเข้า แต่จะมี ค่าบริการ (GP) เป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
Q : แกร็บใช้บัญชีธนาคารอะไร?
A: แกร็บ สำหรับผู้สมัครขับ ต้องใช้บัญชีธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อรับเงินจากการทำงาน ส่วน สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป สามารถเติมเงินใน GrabPay Wallet หรือชำระเงินด้วยแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ได้หลายแห่ง เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา