ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่มีการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมไปจนถึงบริการ Delivery ส่งอาหาร ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้ร้านค้าหลาย ๆ ร้าน เริ่มปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น หรือแม้กระทั่งผู้ขายที่ไม่มีหน้าร้าน ก็สามารถทำ Delivery ได้เช่นกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราควรรู้ก่อนคำนวณต้นทุน และตั้งราคาขายก็คือ ค่า GP ว่าแต่ค่า GP คืออะไร ? เกี่ยวข้องอย่างไรกับร้านค้าบ้าง ? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
Highlight
- ค่า GP คืออะไร?
- ค่า GP มีผลกระทบอย่างไรกับร้านค้าออนไลน์อย่างไร?
- ค่า GP คํานวณอย่างไร? ร้านเดลิเวอรีมือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง
- หลังหักค่า GP แล้ว ร้านเดลิเวอรีจะได้รับเงินส่วนที่เหลือผ่านช่องทางไหน?
- ข้อดีของการเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับแกร็บมีอะไรบ้าง?
- วิธีการสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับ Grab ทำอย่างไร
- ศูนย์อบรมแกร็บ สาขาย่อย มีที่ไหนบ้าง
- สิทธิประโยชน์ของร้านค้าที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับ Grab มีอะไรบ้าง

ค่า GP คืออะไร
ค่า GP ย่อมาจากคำว่า Gross Profit เป็นค่าบริการระบบที่ร้านอาหารจ่ายให้กับแพลตฟอร์ม Delivery ในจำนวนหรืออัตราที่แตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30%-35% (ไม่รวม Vat) โดยทางแอปพลิเคชันจะมอบสิทธิประโยชน์ เช่น การลดค่าส่ง ส่งฟรี โค้ดส่วนลด หรือกิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ เช่น การเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ โปรโมทร้านบนหน้าแอปฯที่ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ ด้วยเหตุนี้ ร้านค้าต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องบวกค่าธรรมเนียม ค่า GP เข้าไปในต้นทุน คือเพื่อไม่ให้กำไรหาย หรือถึงขั้นขาดทุน
ค่า GP มีผลกระทบอย่างไรกับร้านค้าออนไลน์อย่างไร ?
-
ขายได้เยอะ แต่รายได้จริงลดลง
หลายร้านอาจมียอดขายจำนวนมาก แต่เมื่อถูกหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับ GP ค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มแล้ว รายได้สุทธิกลับเหลือน้อยลง จนทำให้เจ้าของร้านรู้สึกว่าทำงานหนัก แต่ผลตอบแทนไม่ตรงกับความคาดหวัง
-
จำเป็นต้องตั้งราคาสินค้าสูงขึ้น
เพื่อชดเชยต้นทุนที่หักจาก GP ซึ่งเป็นค่าใช้บริการแพลตฟอร์ม หลายร้านจึงปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น แต่ราคาที่แพงเกินไปอาจกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อจากคู่แข่งที่ตั้งราคาถูกกว่าแทน
-
งบการตลาดหายไปบางส่วน
เงินที่ร้านควรจะนำไปลงทุนกับการโฆษณา ทำโปรโมชั่น หรือกิจกรรมดึงดูดลูกค้า ต้องถูกแบ่งไปเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อตกลงของ GP Partnership ส่งผลให้หลายร้านมีงบพัฒนาธุรกิจน้อยลง

ค่า GP คํานวณอย่างไร? ร้านเดลิเวอรีมือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง
ตัวอย่างการคำนวณค่าบริการระบบ GP ของ Grab ที่เข้าร่วมโปรโมชั่น และไม่ร่วมโปรโมชั่น


หลังหักค่า GP แล้ว ร้านเดลิเวอรีจะได้รับเงินส่วนที่เหลือผ่านช่องทางไหน?
สำหรับร้านค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ร้านค้าจะได้รับยอดขายสุทธิหลังหักค่าบริการต่าง ๆ ผ่านทางบัญชีที่ลงทะเบียนไว้กับ Grab ในวันถัดไป เช่น หากมีออเดอร์เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น. ร้านค้าจะได้รับเงินเข้าบัญชีในวันที่ 16 มกราคม 2568
หากไม่ได้รับยอดเงินโอนภายใน 18.00 น. สามารถติดต่อผ่านศูนย์ช่วยเหลือระยะเวลาในการตรวจสอบและดำเนินการขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่ติดต่อเข้ามาในเวลานั้น

ข้อดีของการเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับแกร็บมีอะไรบ้าง
-
เพิ่มลูกค้าเพิ่มยอดขาย
Grab ในฐานะซุปเปอร์แอปสำหรับทุกวัน จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตด้วยการเข้าถึงลูกค้าอีกนับล้านคนที่กำลังค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ บนแอป
-
จัดการร้านค้าได้ด้วยตนเอง
รับคำสั่งซื้อ, เปิด/ปิดร้าน, แก้ไขหรือเพิ่มเมนูได้ง่าย ๆ ตรวจสอบยอดขายได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอป GrabMerchant
-
เติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา เริ่มต้นด้วยการโปรโมตร้านค้าใหม่ฟรี !
สร้างโปรโมชันหรือโฆษณาที่เหมาะสมกับร้านคุณ และมีโอกาสได้อยู่ในไอคอนและวิดเจ็ตร้านค้าใหม่บนหน้าแรกของ Grab เพื่อเพิ่มการรับรู้ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มคุณภาพของร้านค้าได้มากยิ่งขึ้นผ่านแคมเปญต่าง ๆ จากเรา
-
บริการช่วยเหลือร้านค้า
Grab มีตัวช่วยให้ร้านค้าขายได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดการร้านค้าด้วยตนเองผ่านแอป GrabMerchant (Android / iOS) มี Grab Supporn ช่วยแก้ปัญหา ตอบทุกข้อสงสัยไม่พลาดทุกเรื่องราวสำคัญผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมสินเชื่อขยายกิจการแบบไม่มีสะดุด
-
รองรับการชำระเงินแบบ E-payment
ไม่ใช่แค่ค่าส่งถูกเท่านั้น แต่ลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบันยังนิยมการชำระเงินแบบ Cashless มากกว่าเงินสด ร้านค้าที่เข้าร่วม GrabFood (GP) จะสามารถรับการจ่ายเงินผ่านระบบ E-payment ได้ทันที ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า และยังเปิดโอกาสให้ร้านได้รับ ออเดอร์มูลค่าสูง มากขึ้นอีกด้วย

วิธีการสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับ Grab ทำอย่างไร
- ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood ผ่านแอป GrabMerchant
- ขั้นตอนที่ 2: กรอกแบบฟอร์มข้อมูลร้านค้า พร้อมแนบเอกสารการสมัคร
- เอกสารในการสมัคร มีดังนี้
- ประเภทบุคคลธรรมดา
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (สถานะบัตรเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- กรณีผู้สมัครอายุ ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ ต้องแนบบัตรประชาชนและหนังสือยินยอมของผู้ปกครอง สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมได้ที่นี่
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (สถานะบัตรเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- ประเภทนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.20)
- สำเนาบัตรประชาชนกรรมการบริษัท (สถานะบัตรเป็นปัจจุบันและไม่หมดอายุ)
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงศรี ประเภทออมทรัพย์ และสถานะบัญชีเคลื่อนไหวเป็นปัจจุบัน
- ใบมอบอำนาจ (ในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่กรรมการบริษัทตามหนังสือรับรองระบุ)
- ขั้นตอนที่ 3: แจ้งเตือนผลการสมัครผ่านทางแอปเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว
- ขั้นตอนที่ 4: เซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย ๆ ผ่านทางแอป GrabMerchant
- ขั้นตอนที่ 5: รับอีเมลเพื่อศึกษาวิธีการเปิดระบบพาร์ทเนอร์ร้านค้า และเรียนรู้การใช้งาน
- ขั้นตอนที่ 6: เข้าสู่ระบบเพื่อสร้างเมนูอาหาร และเปิดสถานะร้านค้าเตรียมพร้อมรับออเดอร์ของคุณได้เลย
ลงทะเบียนผ่านแอปฯ GrabMerchant
ศูนย์อบรมแกร็บ สาขาย่อย มีที่ไหนบ้าง
- สมัครได้ง่ายๆ ที่ศูนย์อบรมแกร็บสาขาใกล้บ้านคุณ สะดวก รวดเร็ว สามารถเปิดระบบได้ภายใน 7 วัน พร้อมกับผู้ช่วยที่คอยประสานงานให้คุณตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครจนถึงเปิดร้านบนแอปฯ GrabMerchant
เช็คสาขาศูนย์บริการทั้งหมด ได้ที่นี่
สิทธิประโยชน์ของร้านค้าที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้ากับ Grab มีอะไรบ้าง
- รับคำสั่งซื้อ ตรวจสอบยอดขาย และเปิด/ปิดสร้านค้าได้ด้วยตนเองในแอปฯ GrabMerchant
- ตรวจสอบยอดขายประจำวันได้ผ่านแอปฯ โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดของยอดขายย้อนหลังได้สูงสุด 30 วัน และร้านค้าจะได้รับสรุปรายงานยอดขายผ่านอีเมลในวันถัดไป
- ระบบจะช่วยจัดการค่าใช้จ่ายรายวันให้กับทางร้านค้า ซึ่งระบบจะคอยเก็บเงินค่าอาหาร/สินค้าจากทางลูกค้า และจ่ายให้ร้านค้าโดยตรงภายใน 1-2 วันทำการ โดยหักค่าบริการเรียบร้อยแล้ว
- บริการช่วยเหลือร้านค้าให้สามารถขายได้อย่างราบรื่น
- จัดการร้านค้าของคุณผ่าน Grab Merchant App (Android / iOS) ใช้งานง่าย
- เรามี Grab Support ช่วยแก้ปัญหา
- ติดตามเพื่อไม่พลาดทุกเรื่องราวสำคัญผ่าน Line Official, กลุ่มครอบครัวร้านค้า Facebook และ Youtube
- มีสิทธิ์รับสินเชื่อจากเราเพื่อขยายกิจการของคุณได้อย่างไม่มีสะดุด
จะเห็นได้ว่าในการเรียกเก็บค่า GP นั้น แลกมาซึ่งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่สนับสนุนและดูแล ร้านค้า เพื่อเพิ่มรายได้ และการเข้าร่วมการตลาดต่าง ๆ ของ Grab หากสนใจสมัคร Grab ร้านค้า หรืออยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.grab.com/th/merchant/
คำถามที่พบบ่อย
Q: ค่า GP แต่ละร้านเหมือนกันหรือไม่?
A: ไม่เหมือนกันเสมอไป ค่า GP ของ Grab หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน การเข้าร่วมแคมเปญ รวมถึงการเจรจาสัญญาระหว่างร้านค้ากับแพลตฟอร์ม โดยอาจมีทั้งเรตมาตรฐาน และเรตพิเศษตามข้อตกลง
Q: ค่า GP ต้องเสียทุกออเดอร์หรือไม่?
A: ใช่ ค่า GP จะถูกคิดจากทุกออเดอร์ที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม ยกเว้นในบางกรณีที่ร้านเข้าร่วมแคมเปญพิเศษหรือมีข้อตกลงเฉพาะที่แพลตฟอร์มอาจลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมบางส่วน
Q: ค่า GP มีผลต่อ VAT อย่างไร?
A: ค่า GP ที่แพลตฟอร์มหักออกมักยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ร้านค้าต้องตรวจสอบใบสรุปยอดขายเพื่อคำนวณภาษีที่ถูกต้อง และควรทำบัญชีอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เสียภาษีเกินจริง
Q: มีวิธีลดผลกระทบจากค่า GP หรือไม่?
A: ร้านสามารถลดผลกระทบได้ด้วยการวางแผน เช่น การจัดชุดเมนูเพื่อเพิ่มมูลค่าต่อบิล การเข้าร่วมแคมเปญที่ช่วยดึงลูกค้าใหม่ หรือการหาช่องทางขายเสริม
Q: ขับ Grab เสียภาษียังไง?
A: ผู้มีรายได้จะต้องเสียภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยคิดจากรายได้รวมทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นรายได้จาก เงินเดือน, การค้าขาย, การรับจ้าง รวมถึงอินเซนทีฟจากการขับแกร็บ นำรายได้รวมทั้งหมดหักลบด้วยค่าลดหย่อนต่างๆ หากผลลัพธ์ไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี และสามารถยื่นเอกสารทวิ 50 เพื่อขอคืนภาษีจากกรมสรรพากรได้