การขับรถรับจ้างผ่านแอปอย่าง Grab การมีแค่ “ประกันรถยนต์ส่วนบุคคล” อาจไม่เพียงพอ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันอาจปฏิเสธความคุ้มครองบางส่วน จึงควรเลือกประกันรถยนต์สาธารณะ หรือ ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีการคุ้มครองทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกในกรณีเกิดเหตุร้ายแรง และวงเงินคุ้มครองโดยรวมก็มักจะสูงกว่าประกันรถยนต์ส่วนบุคคล
ส่วนคำถามที่ว่า “ขับ Grab ใช้ประกันรถยนต์เดิมเคลมหรือคุ้มครองได้จริงหรือเปล่า?” และ “ประกันเชิงพาณิชย์ คืออะไร?” บทความนี้จะไขข้อสงสัย พร้อมอธิบายความต่างระหว่าง “ประกันรถยนต์ส่วนบุคคล” กับ “ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์” และแนะแนวทางเลือกประกันที่เหมาะสำหรับคนขับ Grab เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเต็มที่บนท้องถนน
Highlight
- ประกันรถยนต์สาธารณะ คืออะไร?
- ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับรับจ้าง เคลมประกันรถยนต์ได้มั้ย?
- ต้องทำยังไง? ถ้าอยากได้ความคุ้มครองจากประกันภัย
- ประกันรถยนต์สาธารณะคุ้มครองอะไรบ้าง?
- ประกันรถยนต์สาธารณะ ต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปยังไง?
- ทำประกันรถยนต์สาธารณะ ต้องดูอะไรบ้าง?
- เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อทำประกันรถยนต์สาธารณะมีอะไรบ้าง?
- ประกันรถยนต์สาธารณะ ราคาเท่าไหร่?
- ประกันภัย ชั้น 1 รถยนต์สาธารณะ ราคาเท่าไหร่?

ประกันรถยนต์สาธารณะ คืออะไร?
ประกันรถยนต์สาธารณะ (ประกันเชิงพาณิชย์) คือ ประกันภัยรถยนต์สำหรับยานพาหนะที่นำไปใช้รับส่งสินค้าหรือผู้โดยสารโดยมีการคิดค่าบริการ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้โดยสาร รถจักรยานยนต์รับจ้าง ฯลฯ แตกต่างจากประกันรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้สำหรับเดินทางส่วนตัว ไม่ได้ใช้เพื่อการรับจ้างหรือขนส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์
ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับรับจ้าง เคลมประกันรถยนต์ได้มั้ย?
ในกรณีนำรถยนต์ส่วนตัวไปขับรับจ้างโดยไม่ได้เปลี่ยนสถานะทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะ (ป้ายเหลือง) แล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (เช่น ประกันชั้น 1, 2, 3) จะมีสิทธิปฏิเสธการเคลมในส่วนค่าซ่อมรถ ค่าทำสี หรือค่าความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันทันที เนื่องจากถือเป็นการ “ใช้รถผิดประเภท” ตามข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัย แม้ว่า จะทำประกันชั้นสูงสุดก็ไม่ครอบคลุมค่าเสียหายของรถ หากไม่ได้แจ้งบริษัทประกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้งาน
ในขณะที่ประกันภัยภาคบังคับ (พรบ.) ยังให้ความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสารอยู่ตามเดิม เพราะครอบคลุมกรณีชีวิต และร่างกายโดยไม่สนใจรูปแบบการใช้งานของรถ แต่จะไม่คุ้มครองในส่วนของตัวรถหรือทรัพย์สินของผู้เอาประกันเอง
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์และรถจักรยานยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ต้องทำยังไง? ถ้าอยากได้ความคุ้มครองจากประกันภัย
-
รถแท็กซี่
หากต้องการขับรถแท็กซี่ และต้องการความคุ้มครองจากประกันภัย ขั้นตอนสำคัญ คือ จะต้องนำรถไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างสาธารณะให้ถูกต้องเสียก่อน (จะได้ป้ายทะเบียนสีเหลือง) จากนั้น เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์สาธารณะสำหรับการรับจ้างโดยเฉพาะ ซึ่งให้ความคุ้มครองทั้งต่อตัวรถยนต์ ทรัพย์สิน ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก หากทำทุกขั้นตอนถูกต้อง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะช่วยดูแลค่าเสียหายต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน
-
รถยนต์รับจ้างผ่านแอป
สำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ถ้าต้องการความคุ้มครองจากประกันภัย จะต้องนำรถไปจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านแอปอย่างถูกต้อง ซึ่งต้องเป็นแอปที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก แล้วติดสติกเกอร์แสดงสัญลักษณ์ให้ชัดเจนบนตัวรถ จากนั้น จึงเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์สาธารณะ หรือจะเลือก“ประกันรถยนต์เบาใจ” จากแกร็บ ราคาเริ่มต้นเพียง 28.89 บาท/วัน คุ้มครองพี่ๆ คนขับ ลูกค้า และบุคคลภายนอกเป็นเวลา 24 ชั่วโมงทันทีหลังซื้อ สำหรับการใช้งานลักษณะนี้โดยเฉพาะ เพียงเท่านี้ก็มั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงหรือต้องเคลมประกัน คุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างถูกต้อง และไม่ผิดเงื่อนไขกรมธรรม์

ประกันรถยนต์สาธารณะคุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์สาธารณะหรือที่เรียกว่า “ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์” ครอบคลุมความคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
- ความเสียหายจากอุบัติเหตุ: ครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์ ทรัพย์สิน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ความคุ้มครองทรัพย์สินเสียหาย: ชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างการประกอบธุรกิจ เช่น รถชน รถเสียหาย
- ความคุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลภายนอก: ให้ความคุ้มครองต่อร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ผู้โดยสาร และคู่กรณี
- ความรับผิดชอบทางกฎหมาย: ครอบคลุมค่าชดเชยที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน
- คุ้มครองต่อผู้ประกอบการขนส่ง: ให้ความมั่นใจเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขณะประกอบการ เช่น อุบัติเหตุระหว่างรับส่งผู้โดยสาร
- คุ้มครองความเสียหายจากการหยุดชะงักของกิจการ: กรณีเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องหยุดใช้รถเชิงพาณิชย์ มีความคุ้มครองรองรับในส่วนของรายได้ที่เสียไป
- ความรับผิดชอบของนายจ้าง: ในกรณีมีพนักงานขับรถ และเกิดอุบัติเหตุ ขอบเขตความคุ้มครองอาจรวมถึงความรับผิดที่นายจ้างต้องแบกรับ
หมายเหตุ: รายละเอียด และวงเงินคุ้มครองขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทแผนประกัน และบริษัทประกัน
ประกันรถยนต์สาธารณะ ต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปยังไง?
ประกันรถยนต์สาธารณะมีความแตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปตรงที่เป็นประกันสำหรับรถที่มีการนำไปใช้รับจ้างรับส่งผู้โดยสารหรือสินค้า ซึ่งมีการใช้งานหนักกว่า มีความเสี่ยงอุบัติเหตุสูงกว่า และมีข้อบังคับต้องจดทะเบียนให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน เช่น แท็กซี่ป้ายเหลืองหรือรถรับจ้างผ่านแอป ซึ่งประกันประเภทนี้จะคุ้มครองทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกในกรณีเกิดเหตุร้ายแรง วงเงินคุ้มครองโดยรวมก็มักจะสูงกว่าประกันรถยนต์ส่วนบุคคล

ทำประกันรถยนต์สาธารณะ ต้องดูอะไรบ้าง?
หากต้องการทำประกันรถยนต์สาธารณะ เพื่อใช้งานรถรับจ้าง เช่น แท็กซี่ รถตู้ หรือรถผ่านแอป ควรพิจารณาประเด็นสำคัญต่อไปนี้ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุด
-
ประเภทของการจดทะเบียนรถ
ต้องตรวจสอบว่า รถได้จดทะเบียนถูกต้องตามประเภท “รถยนต์รับจ้างสาธารณะ” หรือไม่ (เช่น ป้ายเหลืองสำหรับแท็กซี่) เพราะการใช้งานผิดประเภทอาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครอง
-
ความคุ้มครองในกรมธรรม์
ควรตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครอง เช่น คุ้มครองชีวิต และร่างกายของผู้โดยสาร/บุคคลภายนอก, คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก, คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลคนขับ และผู้โดยสาร รวมถึงคุ้มครองความเสียหายต่อสินค้าขนส่ง และจะต้องดูวงเงินสูงสุดที่ประกันแต่ละรายการให้ไว้ว่า ครอบคลุมความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่
-
ประเภทและชั้นของประกัน
เลือกชั้นประกันที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น ชั้น 1, 2+, 3+ หรือ 3 (แต่ละประเภทมีความคุ้มครองต่างกัน)
-
ชื่อเสียงและบริการหลังการขายของบริษัทประกัน
เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวบริการดี และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อต้องการเคลม
-
ค่าเบี้ยประกันและความคุ้มค่า
เปรียบเทียบค่าเบี้ยระหว่างแต่ละบริษัทว่า ราคาที่จ่ายเหมาะสมกับความคุ้มครองหรือไม่
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อทำประกันรถยนต์สาธารณะมีอะไรบ้าง?
การทำประกันรถยนต์สาธารณะ จำเป็นต้องเตรียมเอกสารสำคัญดังต่อไปนี้:
- สำเนาทะเบียนรถยนต์: ต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นรถยนต์สาธารณะ เช่น ป้ายเหลือง หรือตามที่กฎหมายกำหนด
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ: สำหรับยืนยันตัวตน
- สำเนาใบขับขี่สาธารณะของผู้ขับขี่: หากมีผู้ขับขี่หลายคน ควรมีใบขับขี่ของทุกคนที่แจ้งชื่อเข้าในประกัน
- หนังสือรับรอง/ใบอนุญาตประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ: ถ้ามี หรือจำเป็นตามข้อบังคับขนส่ง
- แบบฟอร์มขอเอาประกันภัย : กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- เอกสารอื่น ๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท: เช่น สำเนากรมธรรม์เดิม (ถ้าต่ออายุ), รูปถ่ายรถยนต์
ประกันรถยนต์สาธารณะ ราคาเท่าไหร่?
ราคาของประกันรถยนต์สาธารณะขึ้นอยู่กับประเภทรถ ประเภทความคุ้มครอง และทุนประกัน ทั้งนี้ เบี้ยประกันสำหรับรถสาธารณะโดยทั่วไปจะสูงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคล ควรเปรียบเทียบเงื่อนไข ความคุ้มครอง และบริการหลังการขายของแต่ละบริษัทก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
ประกันภัย ชั้น 1 รถยนต์สาธารณะ ราคาเท่าไหร่?
ประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถยนต์สาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถตู้ หรือรถรับจ้างผ่านแอป มีความแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท และรายละเอียดความคุ้มครอง โดยเบี้ยประกันชั้น 1 ของรถยนต์สาธารณะมักจะสูงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคล เพราะลักษณะการใช้งานที่มีความเสี่ยงมากกว่า
นอกจากบริษัทประกันรถยนต์ทั่วไปแล้ว Grab ยังมีบริการ “ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ” ให้กับคนขับ GrabCar และ JustGrab ด้วย โดยเป็นแบบ “รายวัน” ราคาเริ่มต้น 28.89 บาท/วัน เหมาะสำหรับผู้ขับรถรับจ้างผ่านแอปที่ต้องการความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องเหมาจ่ายรายปี เลือกซื้อใช้งานเฉพาะวันที่ให้บริการก็ได้ ซึ่งประกันนี้ได้รับการอนุมัติ และถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้วงเงินความคุ้มครอง เช่น ความเสียหายต่อชีวิต/ร่างกายบุคคลภายนอก, คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล, และค่าประกันตัวผู้ขับขี่
หากคุณขับรถรับจ้างผ่านแอปอย่าง Grab การเลือกประกันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองครบถ้วนตามกฎหมาย และไม่เสียสิทธิ์ในการเคลมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดย Grab มีทางเลือกอย่าง “ประกันรถยนต์เบาใจ” ที่ให้คนขับสามารถซื้อประกันรถยนต์สาธารณะแบบรายวันผ่านแอป ในราคาย่อมเยา ไม่ต้องจ่ายรายปี และยังคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในขณะขับงานหรือส่วนตัว ช่วยให้คุณขับขี่บนท้องถนนได้อย่างอุ่นใจ และมั่นใจยิ่งขึ้น
ส่วนใครที่สนใจอยากเข้าร่วมเป็นคนขับกับ Grab สร้างรายได้ที่มั่นคง สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และสมัคร GrabBike และ GrabCar ได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อย
Q: รถแท็กซี่ต้องทำประกันภาคสมัครใจหรือแค่ พ.ร.บ. ก็พอ?
A: ต้องทำทั้งสองประเภท! พ.ร.บ. เป็นประกันภาคบังคับ ส่วน ประกันภาคสมัครใจชั้น 1, 2+, หรือ 3+ จะช่วยคุ้มครองทรัพย์สิน รถยนต์ และผู้โดยสาร ซึ่งจำเป็นสำหรับรถสาธารณะ
Q: รถแท็กซี่ติดแก๊สจะซื้อประกันสาธารณะได้หรือไม่?
A: ได้ แต่ต้องมี ใบรับรองการติดตั้งระบบแก๊สอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากขนส่ง และบริษัทประกันบางแห่งอาจพิจารณาค่าเบี้ยเพิ่มขึ้น
Q: ทำประกันรถสาธารณะแล้วสามารถเคลมในกรณีถูกผู้โดยสารทำลายทรัพย์สินในรถได้หรือไม่?
A: ส่วนใหญ่ ไม่ครอบคลุมโดยตรง เว้นแต่ระบุพิเศษ หรือซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในหมวด “ทรัพย์สินในรถ” หรือ “ภัยจากบุคคลที่สาม”
Q: ประกันรถยนต์สาธารณะสามารถผ่อนจ่ายได้ไหม?
A: ได้ หลายบริษัทประกัน มีแผนผ่อนจ่ายแบบ 0% 6-10 เดือน ผ่านบัตรเครดิต หรือบริการผ่อนกับโบรกเกอร์ หรือจะเลือกประกันรถยนต์เบาใจประกันภัยสาธารณะที่เหมาะกับรูปแบบการให้บริการของผู้ให้บริการด้วยรถยนต์ เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ให้บริการแกร็บ เริ่มต้นเพียงวันละ 28.89บ. สามารถชำระค่าสมาชิกเฉพาะวันที่ขับโดยไม่ต้องเหมาจ่ายรายปี และชำระค่าง่ายๆ ผ่านแอป Grab Driver ให้ความคุ้มครองทั้งคนขับและลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
Q: ถ้าแท็กซี่มีประวัติชนบ่อย ประกันยังรับทำหรือไม่?
A: บางบริษัทอาจพิจารณาให้ทำได้แต่ มีเบี้ยสูงขึ้น หรือปรับลดความคุ้มครอง เช่น ไม่รับประกันกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี