ข้อกำหนดการเข้าประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังการระบาดของโรค

เราได้รวบรวมข้อจำกัดการเดินทาง คำแนะนำการเดินทาง และข้อกำหนดในการเข้าประเทศอย่างครบถ้วนและอัปเดตล่าสุด สำหรับจุดหมายปลายทางชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คลิกเพื่อรับคู่มือที่มีประโยชน์และจัดเตรียมมาแล้วเพื่อคุณ!

เมืองสิงโตเมอร์ไลอ้อนเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนด้วยมาตรการสำหรับ โควิด-19 ที่ง่ายขึ้นและยกเว้นการกักตัวสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์แล้ว ณ วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยนอกอาคาร แต่ยังคงจำเป็นสำหรับผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ในสถานพยาบาล บ้านพักคนชราและบนรถพยาบาล

โปรดดูข้อกำหนดการเดินทางฉบับเต็มและข้อจำกัดการเดินทางดังต่อไปนี้

ข้อกำหนดการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • วีซ่าขาเข้าไม่จำเป็นสำหรับนักเดินทางที่เป็นพลเมืองของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม หรือไทย
  • ตั๋วเครื่องบินไปยังสิงคโปร์และข้อมูลที่พัก สำหรับแสดงที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง
  • การรับทราบหรือการยกเว้นให้สามารถเดินทางได้จากประเทศต้นทางของคุณ (ถ้ามี)
  • การใส่หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นในอาคาร แต่ไม่บังคับสำหรับนอกอาคาร

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ยังรวมถึงนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนที่เกิดในปี พ.ศ.2552 (อายุ 13 ปีขึ้นไป) หรือเด็กที่เกิดในหรือหลังปี พ.ศ.2553 (อายุ 12 ปีหรือต่ำกว่า)

  • เด็กที่เกิดในหรือหลังปี พ.ศ.2553 สามารถเข้าประเทศสิงคโปร์ได้โดยไม่มีการตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีน โควิด-19
  • นักเดินทางที่เกิดในหรือก่อนปี พ.ศ.2552 จะต้องฉีดวัคซีนสำหรับการใช้งานฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO EUL อย่างครบถ้วน (อย่างน้อย 1 เข็ม สำหรับ Janssen/J&J หรืออย่างน้อย 2 เข็ม สำหรับ AstraZeneca, Covaxin, Moderna/Spikevax, Covishield, Novavax, Pfizer/BioNTech/COMIRNATY, Sinovac หรือ Sinopharm) การฉีดยาสูตรผสมและเข็มกระตุ้นของวัคซีนเหล่านี้เป็นที่ยอมรับเช่นกัน โปรดทราบว่าวัคซีนสำหรับการใช้งานฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกส่วนใหญ่นั้นประสิทธิภาพของสถานะการฉีดวัคซีนจะลดลงหลังจาก 270 วัน เข็มกระตุ้นจึงต้องฉีดภายในห้าเดือนเพื่อรักษาสถานะการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่
  • หลักฐานการฉีดวัคซีน โดยใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนแบบดิจิตัล หรือ Digitally Verifiable Vaccination Certificate (DVC) จะต้องอัปโหลดไปที่ Vaccination Check Portal (สำหรับนักเดินทางต่างชาติ) หรือดึงข้อมูลผ่านแอป TraceTogether (สำหรับผู้อยู่อาศัยในสิงคโปร์)
  • ในกรณีที่ DVC ไม่พร้อมใช้งานหรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ให้นำใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ปริ้นต์ออกมาพร้อมด้วยคำแปลภาษาอังกฤษที่มีการรับรอง พร้อมชื่อของนักเดินทาง (ที่ตรงกับในหนังสือเดินทาง) วันเดือนปีเกิด และหมายเลขหนังสือเดินทาง ชื่อของวัคซีน (ทุกเข็ม) ที่ฉีดและวันที่ฉีดวัคซีน ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่เดินทางเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ นักเดินทางอาจอ้างอิงถึง คู่มือการแก้ไขปัญหานี้ สำหรับการอัปโหลด DVC อีกครั้ง ข้อผิดพลาดทั่วไปที่พบบ่อยคือการอัปโหลดใบรับรองวัคซีนฉบับภายในประเทศ แต่ไม่ใช่ฉบับสำหรับเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้นควรประสานงานกับหน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่ของคุณเพื่อขอใบรับรองการวัคซีนสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ในบางประเทศใบรับรองเหล่านี้อาจออกให้โดยกรมหรือหน่วยงานต่างๆ โดยที่แอป TraceTogether จะแสดงสถานะวัคซีนของนักเดินทางชั่วคราวเป็นเวลา 30 วันหลังส่งเอกสารสำเร็จ
  • โปรไฟล์ที่ลงทะเบียนในแอป TraceTogether
  • เมื่อส่ง บัตรขาเข้าของ SG และแบบฟอร์มแสดงความพร้อมด้านสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเว็บไซต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและจุดตรวจ สามวันก่อนเดินทางมาถึงประเทศสิงคโปร์ อีเมลตอบรับจะถูกส่งไปเมื่อทำการส่งสำเร็จ ซึ่งสามารถใช้เพื่อการตรวจสอบก่อนขึ้นเครื่องและตรวจคนเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น
  • นักเดินทางต่างชาติจะได้รับบัตร Visit Pass แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Pass) ซึ่งระบุระยะเวลาการเข้าพักเมื่อยื่น SGAC ทั้งนี้ หนังสือเดินทางจะไม่มีการประทับตราอีกต่อไป แต่สามารถรับ e-Pass ได้จากเว็บไซต์ของ Immigration & Checkpoints Authority
  • ตัวเลือกเพิ่มเติม: ใบรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง หากนักเดินทางเพิ่งไปเยือนกลุ่มประเทศหรือภูมิภาคที่มีความเสี่ยงสูงของไข้เหลืองในทวีปแอฟริกาหรือละตินอเมริกา

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ สำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

นักเดินทางที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือได้รับการฉีดวัคซีนเพียงบางส่วน จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศสิงคโปร์ได้เฉพาะในสถานการณ์พิเศษ เช่น การเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว ข้อกำหนดนี้ยังใช้กับนักเดินทางที่เกิดในหรือก่อนปี พ.ศ. 2552 ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างสมบูรณ์ (รวมถึงผู้ที่รับวัคซีนที่ไม่ใช่ของ WHO EUL หรือไม่ครบตามปริมาณของวัคซีนที่ WHO EUL กำหนด) ผู้ที่ได้รับการยกเว้นทางการแพทย์จากวัคซีนป้องกันโควิด-19 และผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามปริมาณขั้นต่ำตามที่ WHO EUL กำหนด

  • การอนุมัติการเข้าเมืองโดยใช้ พอร์ทัลแอปพลิเคชันของสำนักงานการเดินทางอย่างปลอดภัย โปรดทราบว่าการอนุมัติการเข้าประเทศ ได้รับการยกเว้นสำหรับพลเมืองสิงคโปร์หรือผู้อยู่อาศัยถาวร การอนุมัติการเข้าประเทศได้รับการยกเว้นสำหรับผู้ถือบัตรผ่านแบบพำนักระยะยาว จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เท่านั้น สำหรับผู้มาเยือนระยะสั้นที่เดินทางเข้าประเทศในกรณีพิเศษจำเป็น ต้องมีเอกสารประกอบเพิ่มเติม (เช่น ใบรับรองแพทย์หรือใบมรณะบัตร) ด้วย
  • การรับทราบหรือการยกเว้นให้สามารถเดินทางได้จากประเทศต้นทางของคุณ (ถ้ามี)
  • ผลการตรวจทดสอบโควิด-19 ก่อนออกเดินทางภายใน 2 วันก่อนเดินทางไปสิงคโปร์ ข้อกำหนดนี้ได้รับการยกเว้นหากคุณตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิดภายใน 14-90 วันก่อนออกเดินทาง ตรวจสอบที่นี่ เพื่อดูว่าคุณสามารถยกเว้นการทดสอบก่อนออกเดินทางได้หรือไม่
  • การกักตัวอยู่ที่บ้าน (Stay Home Notice: SHN) – บุคคลที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนจะต้องกักตัวและแจ้งการกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลาเจ็ดวันเมื่อเดินทางมาถึง
  • การเดินทางด้วยการขนส่งแบบส่วนตัวไปยังที่พักของ SHN โดยรถแท็กซี่หรือ Grab
  • ผลการตรวจทดสอบโควิด-19 เป็นลบหลังจากเข้ารับการกักตัวอยู่ที่บ้านแบบ SHN
  • ดาวน์โหลด แอป TraceTogether สำหรับการติดตามผู้ติดต่อและแสดงสถานะการฉีดวัคซีนโดยใช้การตั้งค่า Vaccination-Differentiated
  • ตัวเลือกเพิ่มเติม: ประกันการเดินทางมูลค่า 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับผู้มาเยือนที่ไม่มีบัตรผ่านแบบพำนักระยะยาว (Singapore Long-Term Pass) แม้ว่าจะเป็นทางเลือกแต่ก็ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนักเดินทางที่ป่วยขณะเดินทาง ในสิงคโปร์จะต้องรับผิดชอบ ค่ารักษาพยาบาล นักเดินทางสามารถซื้อประกันการเดินทางผ่านแอป Grab ได้

ข้อกำหนดการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน 2565

อย่าพลาดข้อมูลแจ้งเตือนที่สำคัญ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายการตรวจสอบข้อกำหนดการเข้าประเทศสิงคโปร์สำหรับปรินต์

การเดินทางไปและเที่ยวรอบๆ ประเทศสิงคโปร์อย่างปลอดภัยไร้กังวล

Grab ลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในทุกการเดินทางทั้งหมดของเรา ทั้งนี้ 90% ของพาร์ทเนอร์คนขับของเรานั้นได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว คุณจึงสามารถเดินทางไปรอบสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ ไม่ว่าจุดประสงค์ในการเดินทางของคุณจะเป็นอย่างไร Grab ก็มีการเดินทางแบบหลากหลายให้คุณเลือก ทั้งแบบเพื่อธุรกิจ (GrabPremium หรือ GrabExec) เพื่อความสนุกสนานในครอบครัว (Grab Family) หรือแม้แต่เพื่อกลุ่มเพื่อนขนาดใหญ่ (GrabCar 6) นอกจากการจองรถแล้วคุณยังสามารถสั่งขนมหรือของชำให้มาส่งและซื้อตั๋วเข้าชม สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงยังสามารถจองโรงแรมกับ Grab ซูเปอร์แอปได้ครบเลยในที่เดียว ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะไม่ต้องกังวลกับอุปสรรคด้านภาษา หรือการสื่อสารอีกต่อไปด้วยคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติบน GrabChat ที่แปลข้อความเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาท้องถิ่น ซึ่งในขณะเดียวกันศูนย์ช่วยเหลือของเราก็ยังมีให้บริการเป็นภาษาอังกฤษด้วย

แหล่งที่มา:

ด่านตรวจคนเข้าเมืองและจุดตรวจของประเทศสิงคโปร์
การเดินทางมาประเทศสิงคโปร์
กระทรวงการต่างประเทศของประเทศสิงคโปร์

เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 ประเทศมาเลเซียได้เปิดพรมแดนเนื่องจากประเทศได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระยะหลังการแพร่ระบาดอย่างเป็น ทางการของ โควิด-19 และยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางส่วนใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 นักเดินทางและเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปีที่ได้ รับวัคซีนครบทุกคนไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 ก่อนออกเดินทางและเมื่อเดินทางมาถึงอีกต่อไป ประกัน โควิด-19 ก็ไม่จำเป็นต้องทำสำหรับนักเดินทางที่เดินทางเข้าประเทศ ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเดินทางมายังประเทศที่หลากหลายแห่งนี้ซึ่งมีศูนย์กลางเมืองที่พลุกพล่าน และภูมิทัศน์ชายฝั่งที่สวยงาม

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • นักเดินทางที่เป็นพลเมืองของประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม หรือไทย ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ
  • ตั๋วไป-กลับที่ใช้การได้
  • หลักฐานการเงินที่เพียงพอจะครอบคลุมระยะเวลาพำนักในประเทศมาเลเซีย โดยคุณสามารถแสดงเงินสด เช็คเดินทาง หรือบัตรเครดิต/เดบิตต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือด่านตรวจหนังสือเดินทาง
  • ที่อยู่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย
  • การรับทราบหรือการยกเว้นให้สามารถเดินทางได้จากประเทศต้นทางของคุณ ถ้ามี
  • ตั้งแต่ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 พลเมืองมาเลเซียไม่จำเป็นต้องกรอกรายละเอียด Traveller’s Pass ในแอปพลิเคชัน MySejahtera ก่อนเข้าประเทศมาเลเซียอีกต่อไป
  • การใส่หน้ากากอนามัย: จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิดภายในอาคารและบนรถโดยสารขนส่งสาธารณะทั้งหมด สายการบิน เช่น แอร์เอเชียห้ามสวมหน้ากากอนามัยที่มีวาล์วหายใจออกหรือหายใจออกบนเครื่องบิน

ข้อกำหนดการเดินทางเข้าสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีน

  • นักเดินทางที่อายุไม่เกิน 17 ปีสามารถเดินทางเข้ามาเลเซียได้โดยมีการตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนและไม่จำเป็นต้องทำการตรวจทดสอบหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทางและเมื่อถึงที่หมาย ทั้งนี้พวกเขาจะยังต้องดาวน์โหลดและเปิดใช้งานแอป MySejahtera
  • สำหรับนักเดินทางที่อายุ 18 ปีขึ้นไปและได้รบการฉีดวัคซีนแล้ว: ยืนยันสถานะวัคซีนของคุณที่ MySafeTravel เนื่องจากสิ่งนี้จะ ส่งผลต่อข้อกำหนดการเดินทางของคุณ
  • ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac, Sinopharm, Covishield, Novavax และ Sputnik V จะได้รับการพิจารณาว่าฉีดวัคซีนครบแล้วก็ต่อเมื่อได้รับครบทั้ง 3 เข็ม ส่วนผู้ที่มีอายุ 18-59 ปีที่ได้รับวัคซีน Pfizer, Moderna, AstraZeneca, Covaxin และ Covishield จำนวน 2 เข็มจะถือว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปแนะนำว่าควรได้รับเพิ่มอีก 1 เข็ม ส่วนสำหรับ Johnson & Johnson ผู้ที่อายุ 18 ถึง 59 ปีต้องได้รับการฉีดจำนวน 1 เข็ม และสำหรับอายุ 60 ปีขึ้นไปต้องได้รับการฉีดจำนวน 2 เข็ม
  • ยืนยันการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยใบรับรองแบบดิจิทัลที่ MySafeTravel และนอกเหนือจากวัคซีนของ WHO EUL แล้ว ประเทศมาเลเซียยังยอมรับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศบ้านเกิดของนักเดินทางที่ได้รับการรับรองโดยหน่วยงานกำกับ ดูแลในท้องถิ่นอีกด้วย
  • ดาวน์โหลดแอป MySejahtera ที่ใช้เป็นเหมือนเครื่องติดตามและเป็นวัคซีนพาสปอร์ต ก่อนเดินทางไปมาเลเซีย
  • สำหรับนักเดินทางต่างชาติ: ในแอป MySejahtera ให้ค้นหาไอคอน Traveller และกรอกแบบฟอร์ม Digital Pre-Departure Form (DPDF) ที่มีข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญและต้องกรอกให้ครบถ้วนก่อนเช็คอินจึงจะสามารถขึ้นเครื่องได้
  • นักเดินทางที่ฉีดวัคซีนครบจะได้รับ Digital Traveller’s Card ที่แสดงในแอป MySejahtera (การ์ดสีน้ำเงิน)
  • นักเดินทางที่ไม่มีบัตรเดินทางในแอป MySejahtera จะถูกระบุว่ามีความเสี่ยงสูงและจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย
  • นักเดินทางที่หายจากโรคโควิด-19 จะต้องฉีดวัคซีนและแสดงหลักฐานในรูปแบบสิ่งพิมพ์หรือดิจิทัลว่าหายจากไวรัสในช่วงเวลา 6 ถึง 60 วันก่อนเดินทางไปมาเลเซีย ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำการตรวจทดสอบโควิด-19 ก่อนออกเดินทางหรือเมื่อเดินทางมาถึง
  • ข้อกำหนดเดียวกันนี้ใช้กับผู้ที่เดินทางจากประเทศสิงคโปร์ไปมาเลเซียภายใต้กรอบนโยบายด้านการเดินทางสำหรับผู้ได้รับวัคซีน
  • เปิดใช้งานแอป MySejahtera ตลอดเวลาและแสดงสถานะแอปเพื่ออนุญาตให้เข้าสู่ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

  • สำหรับนักเดินทางต่างชาติ: ในแอป MySejahtera ให้ค้นหาไอคอน Traveller และกรอกแบบฟอร์ม Digital Pre-Departure Form (DPDF) แบบฟอร์มนี้มีข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญและต้องกรอกให้ครบถ้วนก่อนเช็คอินจึงจะสามารถขึ้นเครื่องได้
  • นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะได้รับคำสั่งให้เฝ้าระวังอยู่ที่บ้านแบบ Digital Home Surveillance Order (HSO) เป็นเวลา 5 วัน (การ์ดสีแดง)
  • นักเดินทางที่ไม่มีบัตรนักเดินทางบนแอป MySejahtera รวมถึงผู้ที่ได้รับคำแนะนำให้ทำ HSO หรือผู้ที่ถูกระบุว่ามี ความเสี่ยงสูงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย
  • ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปต้องได้รับการทดสอบ RTK-Antigen หรือ RT-PCR ที่ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ 2 วันก่อนเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย และการทดสอบ RTK-Antigen ที่ดำเนินการโดยสถาบันที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเดินทางมาถึงในประเทศมาเลเซีย
  • นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลาห้าวันแบบ HSO ในที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าเมื่อเดินทางมาถึง สามารถจองที่พักได้ที่นี่
  • นักเดินทางอาจตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4 ของการกักตัวหรือการทดสอบ RTK-Antigen โดยเจ้าหน้าที่ในวันที่ 5 พวกเขาอาจออกจากการกักตัวเมื่อได้รับผลการทดสอบเป็นลบ แต่ต้องกักตัวเพิ่มอีกห้าวันหากผลการตรวจทดสอบเป็นบวก
  • นักเดินทางจะต้องส่งที่อยู่ของที่พำนักของตนตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในมาเลเซีย
  • เปิดใช้งานแอป MySejahtera ตลอดเวลาและแสดงสถานะแอปเพื่ออนุญาตให้เข้าสู่ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565

ติดตามทุกสิ่ง – ดาวน์โหลดรายการตรวจสอบข้อกำหนดการเข้าประเทศมาเลเซียสำหรับพิมพ์ได้ทันที!

มั่นใจเดินทางไปและรอบๆ ประเทศมาเลเซียอย่างปลอดภัยและสบายใจ

ด้วยการปรับปรุงสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง Grab ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในทุกการขับขี่ ทุกวันในมาเลเซีย คุณได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปต่างประเทศที่รอคอยมานานหรือข้ามรัฐเพื่อไปเยี่ยมคนที่คุณรัก Grab เสนอประกันการเดินทาง สำหรับค่ารักษาพยาบาล ในต่างประเทศพร้อมสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ที่เพิ่มเติมเรื่องโควิด-19  รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางและอื่นๆ ในราคาเพียง 3.18 ริงกิต แอปนี้แอปเดียวคุณสามารถจองตั๋วรถโดยสารระหว่างเมืองและตั๋วเรือข้ามฟาก การเข้าพักโรงแรม ทัวร์เที่ยวชมเมืองและสถานที่รวมถึงกิจกรรม อื่นๆ ได้ อุปสรรคด้านภาษาไม่เคยเป็นปัญหาเพราะ Grab Help Center ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ

ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ grb.to/safereverydayMY #SaferEveryDay

 

แหล่งที่มา:

MySafeTravel
MyGovernment
Malaysia Airlines

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ทางการของประเทศอินโดนีเซียได้กลับมาใช้โครงการ Free Visit Visa อีกครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีผลบังคับใช้กับพลเมืองของประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้สามารถท่องเที่ยวและเพลิดเพลินกับ สิ่งที่ประเทศอินโดนีเซียนำเสนอ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการเดินทางเป็นจำนวนมาก

นักเดินทางทุกคนไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทางอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือ ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนภาคบังคับเมื่อเดินทางมาถึงอินโดนีเซีย อ่านต่อไปเพื่อทราบว่าคุณต้องเตรียมตัวอย่างไรถ้าหากว่าคุณวางแผนที่จะเดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ สำหรับนักเดินทางทุกคน

  • ฟรีวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว: ใช้ได้กับผู้ถือหนังสือเดินทางจาก 9 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ที่เดินทางเพื่อพักผ่อนหรือปฏิบัติหน้าที่ราชการที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
  • ระหว่างประเทศ วีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวนี้มีอายุ 30 วันและสามารถใช้ผ่านเข้าจุดตรวจเข้าเมืองต่อไปนี้เท่านั้น: บาหลี (DPS), จาการ์ตา (CGK), สุราบายา (SUB), เมดาน (KNO), มากัสซาร์ (UPG), มานาโด (MDC), ยอกยาการ์ตา ( YIA), บาตัม (BTH) และลอมบอก (LOP)
  • ในการใช้ฟรีวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวนี้ นักเดินทางต้องแสดง:
    • หนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อยหกเดือน
    • ตั๋วไปกลับประเทศบ้านเกิดหรือตั๋วไปยังประเทศปลายทางอื่น
    • สำหรับนักเดินทางที่มีภารกิจกับภาครัฐจะต้องแสดงจดหมายเชิญให้เข้าร่วมหารือหรือการประชุมที่ออกโดยหน่วยงาน ของรัฐบาลที่เหมาะสมของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
  • นักเดินทางที่เข้าพักเป็นเวลานานกว่า 30 วันเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อภารกิจของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นนานาชาติสามารถยื่นขอ Visa on Arrival ได้ซึ่งอาจขยายเวลาได้สูงสุด 60 วันและมีให้บริการที่สนามบินขาเข้าที่ระบุไว้ข้างต้นโดยมีข้อกำหนดในการเข้า ประเทศเหมือนกันแต่นักเดินทางต้องเตรียมเงินจำนวน IDR500,000 (35 ดอลล่าร์สหรัฐ) เพื่อชำระค่าสมัครวีซ่า
  • นักเดินทางยังสามารถยื่นขอฟรีวีซ่า (Free Visa) และวีซ่าเมื่อมาถึงได้ (Visa on arrival) ก่อนออกเดินทางโดยใช้ e -Visa
  • การใส่หน้ากาก: ณ วันที่ 8 มิถุนายน นักเดินทางจากต่างประเทศทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทั้งในร่ม และกลางแจ้ง

ข้อกำหนดการเดินทางเข้าสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีน

  • ผลการตรวจทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทางที่เป็นลบ ไม่จำเป็นอีกต่อไป สำหรับผู้มาเยี่ยมที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว
  • ดาวน์โหลดและลงทะเบียนใน แอป PeduliLindungi ก่อนออกเดินทาง แอปนี้จะเก็บใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 และสถานะการตรวจทดสอบหาเชื้อรวมถึงแสดงสถานะผู้ใช้ โควิด-19 แบบรหัสสี ซึ่ง มีประโยชน์เมื่อต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีผู้คน พลุกพล่านจำนวนมาก
  • หลักฐานยืนยันสถานะการฉีดวัคซีน – ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19แบบปรินต์และดิจิทัลที่แสดงว่าได้รับวัคซีนครบตาม ปริมาณที่กำหนด 14 วันก่อนออกเดินทาง (อย่างน้อยสองเข็มและ/หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่สาม) สำหรับวัคซีนส่วนใหญ่ซึ่งประเทศอินโดนีเซียยอมรับวัคซีนทั้งหมด) ใบรับรองต้องเป็นภาษาอังกฤษและแสดงประเภทของวัคซีนและวันที่ที่ได้รับการฉีดสำหรับนักเดินทางอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • นักเดินทางที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีได้รับการยกเว้นไม่ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน และสามารถเดินทางเข้าประเทศได้หากเดินทาง กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน
  • ผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 ภายใน 30 วันก่อนเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียจะต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนและผลการตรวจทดสอบ PCR ที่เป็นลบก่อนออกเดินทางและใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐหรือกรมอนามัยแห่งชาติที่แสดงการฟื้นตัวเต็มที่ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้แพร่เชื้อไวรัสอีกต่อไป
  • การตรวจทดสอบ PCR และการกักตัวนั้นไม่จำเป็นสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการ (เช่น อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5C) ขณะอยู่ที่จุดตรวจสุขภาพ พวกเขาจะต้องทำการตรวจทดสอบ PCR โดยออกค่าใช้จ่ายเอง ยกเว้นค่าใช้จ่ายสำหรับชาวอินโดนีเซีย นักเดินทางต้องรอที่ที่พักของตนและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกขณะรอผลการทดสอบ PCR
    • นักเดินทางที่มีผลการทดสอบเป็นลบสามารถเดินทางต่อไปได้ ในขณะที่ผู้ที่มีผลการตรวจ PCR เป็นบวกจะถูกส่งตัวไป ที่สถานกักตัว (สำหรับผู้ที่ไม่แสดงอาการหรือไม่มีอาการเล็กน้อย) หรือที่โรงพยาบาลที่จัดให้ (สำหรับผู้ที่มีอาการ ปานกลางถึงรุนแรง ) ฟรีสำหรับชาวอินโดนีเซีย แต่นักเดินทางต่างชาติต้องชำระเงินเอง

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

  • ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบก่อนออกเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด
  • ดาวน์โหลดและลงทะเบียนในแอป PeduliLindungi ก่อนออกเดินทาง แอปนี้จะเก็บใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 และสถานะการตรวจทดสอบหาเชื้อ
  • นักเดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนซึ่งมีอายุมากกว่า 18 ปี ซึ่งกำลังเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศออกจากอินโดนีเซียไม่จำเป็นต้อง แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ออกจากสนามบินระหว่างรอเที่ยวบิน ทั้งนี้พวกเขาต้องแสดงตั๋ว เครื่องบินที่แสดงการต่อเครื่องโดยตรงไปยังเมืองปลายทางสุดท้าย ผู้ที่ต้องทำการเดินทางภายในประเทศโดยมีความประสงค์จะบินต่อออกนอกประเทศอินโดนีเซียจะต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงานสาธารณสุขท่าเรือในท้องถิ่น
  • นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องผ่านการกักตัวเป็นเวลา 5 x 24 ชั่วโมงพร้อมการทดสอบ PCR ภาคบังคับในวันที่ 4 ของการกักตัว
  • นักเดินทางที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 18 ปีซึ่งไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วน รวมทั้งชาวอินโดนีเซียที่ เดินทางกลับบ้านจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อเดินทางมาถึงประเทศอินโดนีเซียผ่านกฎหมายว่าด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน
  • การฉีดวัคซีนบังคับนั้นได้รับการยกเว้นสำหรับนักเดินทางอายุ 6 ถึง 17 ปี อย่างไรก็ตาม เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีต้องปฏิบัติตามขั้นตอน การกักตัวเช่นเดียวกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองของพวกเขา
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคประจำตัวที่ไม่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของประเทศ ต้นทาง
  • การตรวจทดสอบ PCR เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเดินทางหากพวกเขาแสดงอาการหรือมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ระหว่างการตรวจสุขภาพ เมื่อได้รับผลการทดสอบเป็นลบ พวกเขาจะได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อเดินทางมาถึงหรือระหว่างช่วงกักตัว
    • การกักตัวห้าวันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้รับวัคซีนและได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วน นักเดินทางที่มีผลการตรวจ PCR เป็นบวกเมื่อเดินทางมาถึงจะถูกส่งตัวไปที่สถานกักตัว (สำหรับกรณีที่ไม่แสดงอาการหรืออาการไม่รุนแรง) หรือที่โรงพยาบาลที่ได้รับการจัดให้ (สำหรับผู้ที่แสดงอาการปานกลางถึงรุนแรง) ฟรีสำหรับชาวอินโดนีเซียแต่นักเดินทางต่างชาติต้องชำระเงินเอง ผู้ที่มีผลการทดสอบเป็นลบสามารถไปที่สถานกักตัวได้เลย ตรวจสอบที่พักสำหรับกักตัวที่ได้รับอนุมัติใน จาการ์ตา และ สุราบายา

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2565

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ โดยคุณสามารถตรวจสอบรายการข้อกำหนดการเข้าประเทศอินโดนีเซียสำหรับปรินต์ได้ที่นี่

เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซียและท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย

เดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวลด้วย GrabCar และ GrabBike – พาร์ทเนอร์คนขับของเราได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100% ในขณะที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซียคุณสามารถผ่อนคลายและมุ่งความสนใจไปกับการเดินทางของคุณได้ในขณะที่ Grab ดูแลเรื่องที่เหลือให้ คุณสามารถใช้ Grab

เพื่อสั่งอาหารท้องถิ่น รับริการเดลิเวอรี่และจองการเดินทางโดยไม่ยุ่งยาก ภาษาไม่เคยเป็นอุปสรรคด้วยคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติของ Grab

บน GrabChat ซึ่งแปลภาษาท้องถิ่นเป็นภาษาอังกฤษและในทางกลับกันศูนย์ช่วยเหลือของ Grab ก็ยังมีให้บริการทั้งในภาษาอังกฤษและภาษา ท้องถิ่น

แหล่งที่มา:

เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซีย
ข้อกำหนดการเดินทางของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย
กรมตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซีย

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 รัฐบาลของประเทศไทยได้ยกเลิกข้อกำหนดของ Sandbox และ Test-and-Go เพื่อสนับสนุนโครงการ No-Quarantine สำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน นักเดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนยังคงสามารถเดินทางมา ประเทศไทยได้ โดยมีผลตรวจโควิด-19 ก่อนออกเดินทางเป็นลบ หน้ากากอนามัยสามารถถอดได้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พื้นที่เปิดโล่ง แต่ข้อจำกัดในการเดินทางไม่ได้ถูกยกเลิกทั้งหมด อ่านต่อเพิ่มเติมเพื่อรู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อมาเที่ยวประเทศไทย

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • โดยทั่วไปแล้วชาวต่างชาติจาก 64 ประเทศภายใต้ กฎการยกเว้นวีซ่า สามารถเข้าประเทศไทยได้เมื่อปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นระยะเวลานาน 30 วัน ซึ่งรวมถึงผู้ถือหนังสือเดินทางจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ผู้ถือหนังสือเดินทางกัมพูชาสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน
  • เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์การยกเว้นวีซ่า ผู้ถือหนังสือเดินทางต้องมีตั๋วเครื่องบินที่ได้รับการยืนยันเพื่อแสดงว่าพวกเขากำลังจะบิน ออกจากประเทศไทยภายใน 30 วันหลังจากเข้าประเทศ นอกจากนี้ ประเทศยังยอมรับการเดินทางทางบกด้วยรถประจำทางหรือรถไฟ ไปยังประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และมาเลเซีย (รวมทั้งระหว่างทางไปสิงคโปร์) เพื่อเป็นหลักฐานในการออกจากประเทศไทย ภายใน 30 วัน ผู้ที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานการเดินทางขาออกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ
  • นักเดินทางอาจถูกขอให้แสดงหลักฐานว่าพวกเขามีเงินอย่างน้อย 10,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในประเทศ
  • ณ วันที่ 1 กรกฎาคม ผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทยและผู้มาเยือนจากต่างประเทศไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ Thailand Pass เพื่อเข้าประเทศอีกต่อไป พวกเขาเพียงแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน (สำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว) หรือผลการทดสอบ RT-PCR/RTK ที่เป็นลบที่ออก 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง (สำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ/ ไม่ได้รับวัคซีน) โดยจะมีการสุ่ม ตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจ โควิด-19
  • เมื่อผู้มาเยี่ยมได้รับเที่ยวบินและที่พักแล้ว ให้ปรินต์ข้อกำหนดต่อไปนี้เพื่อให้เป็นไปตามด่านตรวจหนังสือเดินทางของไทย:
    • ใบยืนยันการจองโรงแรม
    • ใบรับรองการฉีดวัคซีน
    • การทดสอบ RT-PCR ก่อนออกเดินทางที่เป็นลบ สำหรับนักเดินทางที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน/ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน
    • ใบรับรองการหายจากโรคโควิด-19 (หากทดสอบก่อนหน้านี้เป็นบวก)
    • TM6 (บัตรสีน้ำเงินที่ได้รับบนเครื่องบิน)
    • TM8 (แบบฟอร์มแถลงเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ)
  • การสวมหน้ากากอนามัย: จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยกลางแจ้งและบนการเดินทางกับขนส่งสาธารณะ ในจังหวัดภูเก็ต ทุกพื้นที่ต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งภายในรีสอร์ทและโรงแรม
  • ตัวเลือกเพิ่มเติม: ขอแนะนำให้นักเดินทางซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมโรคโควิด-19 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ข้อกำหนดการเข้าเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีน

  • ใบรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน:
  • ใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน (สองเข็ม) วัคซีนที่ยอมรับ ได้แก่ CoronaVac, AstraZeneca, Pfizer, Janssen (เข็มเดียวเท่านั้น), Moderna, Sinopham, SputnikV, Covaxin, Novavax, Covovax, Medigen, Turkovac และ Erucov-Vac ปรินต์สำเนาเอกสารและแสดงต่อด่านตรวจหนังสือเดินทาง

ข้อกำหนดการเข้าเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

  • ผลการทดสอบ RT-PCR หรือ RTK ที่เป็นลบและตรวจโดยเจ้าหน้าที่มืออาชีพ (ไม่ใช่แบบทดสอบด้วยตนเอง) ออกให้ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ควรแสดงสำเนาแบบไฟล์หรือแบบปรินต์ที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง และไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง อีกต่อไป
  • เด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ
  • นักเดินทางที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนซึ่งได้รับการสุ่มตรวจและไม่สามารถแสดงหลักฐานการทดสอบ ที่เป็นลบก่อนเดินทางมาถึงจะต้องผ่านการทดสอบ ATK โดยเจ้าหน้าที่มืออาชีพที่ด่านขาเข้า

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2565

ติดตามทุกข้อมูลสำคัญ – ดาวน์โหลดรายการตรวจสอบข้อกำหนดการเข้าประเทศไทยสำหรับปรินต์ได้ทันทีตอนนี้!

การเดินทางมายังเมืองไทยและท่องเที่ยวอย่างสบายใจ

ไม่ต้องกังวลว่าจะเดินทางไปทั่วไทยได้อย่างไร เพราะคุณมีซูเปอร์แอปที่ใช้งานง่ายของ Grab ซึ่งมีคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติใน GrabChat ช่วยให้คุณสื่อสารกับพาร์ทเนอร์คนขับและเจ้าหน้าที่สนับสนุนแชทสดได้โดยไม่มีอุปสรรคด้านภาษา ศูนย์ช่วยเหลือของ Grab มีให้บริการทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาไทยและหากคุณต้องการบริการไปรับหรือไปส่งที่สนามบิน เพียงป้อนรหัสโปรโมชั่น ‘AIRPORT’ และรับส่วนลดสูงสุด 100 บาทสำหรับการโดยสารสนามบิน

อย่าพลาดที่จะเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารไทยแท้ในขณะที่อยู่ในประเทศ! สั่งอาหารผ่านบริการส่งอาหารของ Grab และให้อาหารไทยแสนอร่อยส่งตรงถึงหน้าประตูคุณ

แหล่งที่มา:

ThaiEmbassy.com
ระบบลงทะเบียนบัตรผ่านประเทศไทย

เวียดนามได้เปิดพรมแดนสู่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศอีกครั้งในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 ผลการทดสอบตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ เป็นลบก่อนออกเดินทางนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ประเทศเวียดนามยังคงบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางเป็นครั้งคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ข้อกำหนดการเดินทางสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อย่าลืมตรวจสอบกับสถานทูตเวียดนามในประเทศของคุณก่อนทำแผนการเดินทาง

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • ประเทศเวียดนามได้คืนสถานะการเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับบางประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศฟิลิปปินส์สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 21 วัน ในขณะที่ผู้ที่มาจากประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน
  • ผู้ที่ต้องการอยู่นานขึ้นอาจยื่น ขอต่ออายุวีซ่า เมื่อเดินทางมาถึงประเทศเวียดนาม
  • ตั๋วเดินทางไปกลับประเทศของคุณเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองของเวียดนาม
  • หลักฐานการประกันสุขภาพ/การเดินทางที่มีผลบังคับใช้ซึ่งครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 โดยครอบคลุมขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ดาวน์โหลด แอปตรวจสอบสุขภาพ PC-COVID ซึ่งนักเดินทางต้องแสดงเพื่อเข้าสู่สถานประกอบการต่างๆ ในประเทศเวียดนาม
  • นักเดินทางสามารถเข้าประเทศเวียดนามได้โดยไม่คำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีน เพื่อเข้าประเทศอีกต่อไป
  • ขณะอยู่ในประเทศเวียดนาม ทางการขอให้นักเดินทางเฝ้าสังเกตตนเองเป็นเวลา 10 วัน และรายงานไปยังสถานพยาบาลที่ใกล้ ที่สุดทันทีและโทรสายด่วนสุขภาพของเวียดนาม 1900 3228 หากพบอาการใดๆ ของโรคโควิด-19
  • นักเดินทางต้องปฏิบัติตามแนวทาง 4K ของกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามขณะอยู่ในประเทศ: khau trang (หน้ากากอนามัย), khu khuan (ฆ่าเชื้อ), khoang cach (เว้นระยะห่าง) และ khong tu tap (ไม่รวมกลุ่มชุมนุม) รัฐบาลยังกำหนดให้นักเดินทางปฏิบัติตามข้อควรระวังที่สมเหตุสมผลตามที่ องค์การอนามัยโลก กำหนด
  • การสวมใส่หน้ากากอนามัย: ต้องใช้หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2565

เตรียมพร้อม – ตรวจสอบรายการข้อกำหนดการเข้าประเทศเวียดนามสำหรับปรินต์

เดินทางมายังเประเทศเวียดนามและท่องเที่ยวแบบไร้กังวล

เดินทาง ผ่อนคลาย มาถึง

ด้วยบริการจาก Grab คุณสามารถเดินทางและถึงที่หมายอย่างผ่อนคลายในขณะที่อยู่ในประเทศเวียดนาม จอง Grab เพื่อทัวร์ทั่วประเทศโดย ปราศจากความเครียด – พาร์ทเนอร์คนขับของเรามากกว่า 94% ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น คุณยังรับส่วนลด 20% สำหรับการ โดยสารไป-จากสนามบินด้วย GrabCar ในเวียดนาม ไม่จำเป็นต้องใช้รหัส

ซูเปอร์แอป Grab ไม่ได้มีไว้สำหรับการโดยสารเท่านั้น แต่เรามาที่นี่เพื่อลิ้มรสอาหารท้องถิ่นด้วย! คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของอาหารเวียดนามได้กับ Grab Food สั่งซื้อได้ทุกที่แม้ที่โรงแรมของคุณ

ไม่แน่ใจว่าคุณจะสื่อสารกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ในพื้นที่อย่างไร ไม่ต้องกังวล! ติดต่อกันได้สะดวกด้วยคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติของ GrabChat และยังมีตัวเลือกเป็นภาษาอังกฤษและภาษาเวียดนามสำหรับศูนย์ช่วยเหลืออีกด้วย

แหล่งที่มา:

Vietnam.Travel
กรมการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม
เว็บไซต์วีซ่าอิเล็กทรอนิกส์

เกาะเขตร้อนที่มีให้เลือกมากกว่า 7,600 เกาะ ทำให้สวรรค์ไม่เคยห่างไกลจากจุดใดเลยในประเทศฟิลิปปินส์

ประเทศฟิลิปปินส์อนุญาตให้นักเดินทางที่เดินทางมาพักผ่อนหรือทำธุรกิจ จากกว่า 150 ประเทศ สามารถเดินทางไปยังประเทศโดยไม่ต้องขอ วีซ่าได้ไม่เกิน 30 วัน รวมถึงประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนไม่จำเป็นต้องถูกกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงอีกต่อไปและขอให้เฝ้าสังเกต อาการด้วยตนเองเป็นเวลาเจ็ดวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 จะมีการยกเว้นผลการทดสอบ RT-PCR ที่เป็นลบก่อนออกเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนโดยได้รับวัคซีนกระตุ้นอย่างน้อยหนึ่งครั้งและนักเดินทางที่อายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ต้องแสดงสถานการณ์ฉีดวัคซีนตราบใดที่เดินทางพร้อมกับผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ข้อควรปฏิบัติในการเดินทางในปัจจุบันนั้นไม่อนุญาตให้นักเดินทางที่ไม่ได้ รับการฉีดวัคซีนหรือได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ยอมรับได้ของการฉีดวัคซีนเข้าประเทศ ข้อยกเว้นเพียงข้อเดียวคือผู้ถือหนังสือเดินทางชาวฟิลิปปินส์ นักการทูตต่างประเทศ บุคคลสำคัญ สมาชิกของหน่วยงานต่างประเทศ และคณะผู้แทน ซึ่งจะต้องผ่านช่วง เวลากักตัวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศฟิลิปปินส์

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • อนุญาตให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับพลเมืองประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนามเป็นระยะ เวลาไม่เกิน 30 วัน โดยจะต้อง:
    • ถือหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่เป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือนขึ้นไป
    • มีตั๋วกลับประเทศบ้านเกิดหรือตั๋วเดินทางขาออกไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป
    • การเข้าประเทศ เหล่านี้ ได้รับการยกเว้นสำหรับพลเมืองฟิลิปปินส์ อดีตชาวฟิลิปปินส์และผู้ที่อยู่ในความอุปการะ ผู้อยู่อาศัยถาวร และผู้ถือวีซ่าพิเศษประเภทอื่นๆ
  • บัตรขาเข้าและแบบฟอร์มประกาศศุลกากรที่กรอกโดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินระหว่างเที่ยวบินไปฟิลิปปินส์
  • หน้ากากอนามัย: ต้องใช้หน้ากากอนามัยในอาคารและนอกอาคาร แต่อาจถอดออกสำหรับการรับประทานอาหารในอาคารได้ จำเป็นต้องมี Face Shield พร้อมกับหน้ากากอนามัย สำหรับกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่เกี่ยวข้องกับ 3C: Close, Crowded และ Close Contact

ข้อกำหนดการเข้าเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีน

  • นักเดินทางจะได้รับการพิจารณาว่าได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน หากพวกเขาได้รับวัคซีนสองเข็มหรือวัคซีนเข็มเดียวเป็นเวลามากกว่า 14 วันก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง วัคซีนต่อไปนี้ถือเป็นวัคซีนที่ยอมรับได้: Pfizer / Comirnaty, AstraZeneca, CoronaVac (Sinovac), Sputnik V, Janssen, Covaxin, Moderna, Sinopharm, Covovax, และวัคซีนอื่นๆ ตาม WHO EUL กำหนด
  • สำหรับพลเมืองฟิลิปปินส์หลักฐานการฉีดวัคซีน ใบรับรองการฉีดวัคซีนดิจิทัลระดับชาติหรือระดับรัฐสามารถอัปโหลดไปยัง VaxCertPH ได้ ส่วนพลเมืองของประเทศที่ ยอมรับ VaxCertPH ภายใต้ข้อตกลงที่ให้ไว้ซึ่งกันและกัน รวมถึงประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม อาจแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 จากประเทศของตน ใบรับรองการฉีดวัคซีนและการป้องกันโรคระหว่างประเทศขององค์การอนามัยโลก (WHO ICV) ก็เป็นที่ยอมรับเช่นกัน ควรนำสำเนาหลักฐานการฉีดวัคซีนนี้มาด้วย ถ้ามี
  • กรอกแบบฟอร์มแถลงเรื่องสุขภาพอย่างเป็นทางการโดยลงทะเบียนกับ OneHealthPass e-HDC อย่างน้อยสามวันก่อนออกเดินทาง นักเดินทางทุกคน รวมทั้งเด็ก จะต้องลงทะเบียน OHP อย่าลืมบันทึกหมายเลขธุรกรรมที่จะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลที่ลงทะเบียนไว้ด้วย
  • อัปเดตการลงทะเบียน OHP ในวันที่ออกเดินทางด้วยหมายเลขที่นั่งและการแถลงเรื่องสุขภาพ โดยใส่หมายเลขธุรกรรมและนามสกุล ของนักเดินทาง บันทึกและปรินต์รหัส QR ที่สร้างขึ้น นักเดินทางต้องแสดงรหัส QR และใบรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อเดินทางมาถึง ประเทศฟิลิปปินส์
  • ต้องแสดงผลการทดสอบ PCR ที่เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง หรือผลการทดสอบแอนติเจนที่เป็นลบจากห้องปฏิบัติการภายใต้การดูแล ซึ่งบริหารและรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ที่ได้รับการฉีดยาป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็มหลักครบถ้วนแต่ไม่มีวัคซีนกระตุ้น
    • นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบอายุระหว่าง 12 ถึง 17 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็มหลักครบถ้วนจะได้รับการยกเว้นจากการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทาง
    • นักเดินทางสัญชาติฟิลิปปินส์ที่ฟื้นตัวและหายจากโรคโควิด-19 จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศฟิลิปปินส์หากผลการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทางเป็นบวกพร้อมทั้งยื่นเอกสารด้านล่างนี้:
      • การทดสอบ PCR ที่เป็นบวกนั้นดำเนินการไม่ช้ากว่า 10 วันแต่ไม่เกิน 30 วันก่อนวันและเวลาออกเดินทางจาก ประเทศต้นทาง/ท่าที่ออกเดินทาง
      • การทดสอบ PCR ที่เป็นบวกดำเนินการภายในสี่สิบแปด (48) ชั่วโมงก่อนวันและเวลาออกเดินทางจาก ประเทศต้นทาง/ท่าแรกของการเดินทาง ในการเดินทางไปฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง ไม่รวมการหยุดพัก โดยที่ผู้โดยสารไม่ได้ออกจากสนามบิน หรือไม่รับเข้าประเทศอื่นในระหว่างการหยุดพักระหว่างทางนั้น
      • ใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตระบุว่าพลเมืองของฟิลิปปินส์คนนี้ (i) เป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อาการไม่รุนแรง อาการปานกลาง อาการรุนแรง หรืออาการวิกฤต แล้วแต่กรณี (ii) ได้เสร็จสิ้น ระยะเวลาการแยกกักตัว; (iii) ไม่ติดเชื้ออีกต่อไป และ; (iv) ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนย้ายและเดินทางโดยเสรี
  • นักเดินทางต่างชาติที่หายดีแล้วซึ่งไม่ได้ถือสัญชาติฟิลิปปินส์จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศฟิลิปปินส์ หากการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทางเป็นบวก

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับ นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

  • นักเดินทางต่างชาติที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ยอมรับได้ของการฉีดวัคซีน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์
  • นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในฟิลิปปินส์นั้นคือพลเมืองฟิลิปปินส์และ นักการทูต บุคคลสำคัญ ผู้มีตำแหน่งรับราชการต่างประเทศ และสมาชิกในคณะผู้แทน
  • นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องทำการทดสอบ RT-PCR โดยผู้เชี่ยวชาญหรือทำในห้องปฏิบัติการภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางหรือทำการทดสอบแอนติเจนหรือ ART ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง (ไม่ใช่ด้วยตนเอง) และนำสำเนาผลการทดสอบมาด้วย
    • เด็กอายุ 12 ปีและต่ำกว่าจะได้รับการยกเว้นไม่ให้แสดงผลการทดสอบ RT-PCR ที่เป็นลบก่อนออกเดินทางแต่จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการกักตัวเดียวกันกับผู้ปกครองที่เป็นผู้ใหญ่
    • นักเดินทางที่มีผลตรวจ PCR หรือการทดสอบแอนติเจนเป็นบวกก่อนออกเดินทางจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า ประเทศฟิลิปปินส์
    • นักเดินทางชาวฟิลิปปินส์ที่หายดีแล้วจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศฟิลิปปินส์ได้หากการทดสอบ PCR ก่อนออกเดินทางเป็นบวกพร้อมทั้งยื่นเอกสารด้านล่างนี้:
      • ผลการทดสอบ PCR ที่เป็นบวกที่ได้ดำเนินการไม่ช้ากว่า 10 วันแต่ไม่เกิน 30 วันก่อนวันและเวลา ออกเดินทางจากประเทศต้นทาง/ท่าที่ออกเดินทาง
      • การทดสอบ PCR ที่เป็นบวกดำเนินการภายในสี่สิบแปด (48) ชั่วโมงก่อนวันและเวลาออกเดินทาง จากประเทศต้นทาง/ท่าแรกของการเดินทาง ในการเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง ไม่รวมการหยุดพัก โดยที่ผู้โดยสารไม่ได้ออกจากสนามบิน หรือไม่รับเข้าประเทศอื่นในระหว่าง การหยุดพักระหว่างทางนั้น
      • ใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตระบุว่าพลเมืองของฟิลิปปินส์คนนี้ (i) เป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อาการไม่รุนแรง อาการปานกลาง อาการรุนแรง หรืออาการวิกฤต แล้วแต่กรณี (ii) ได้เสร็จสิ้น ระยะเวลาการแยกกักตัว; (iii) ไม่ติดเชื้ออีกต่อไป และ; (iv) ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนย้ายและเดินทางโดยเสรี
  • เด็กชาวฟิลิปปินส์ที่อายุต่ำกว่า 12 ปีที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนต้องปฏิบัติตามมาตรการกักตัวของผู้ปกครองชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทาง กับพวกเขา เด็กต่างชาติอายุต่ำกว่า 17 ปีต้องปฏิบัติตามการจำแนกประเภทและขั้นตอนที่กำหนดไว้สำหรับสถานะการฉีดวัคซีน ผู้ปกครองที่เป็นชาวต่างชาติหรือชาวฟิลิปปินส์สามารถอยู่กับลูกๆ ไปด้วยได้ในระหว่างการกักตัว
    • นักเดินทางเหล่านี้จะถูกกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศฟิลิปปินส์ เลือก โรงแรมกักตัว ที่ได้รับการรับรอง จากรายการนี้
    • การทดสอบ RT-PCR มีกำหนดในวันที่ห้าของการกักตัว พลเมืองฟิลิปปินส์ที่ผลตรวจเป็นลบสามารถเดินทางออกจากการกักตัวได้ นักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างประเทศต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่คำนึงถึงผลการทดสอบ

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2565

ติดตามข้อกำหนดทั้งหมดโดยการปรินต์รายการตรวจสอบข้อกำหนดการเข้าประเทศฟิลิปปินส์

เดินทางไปและท่องเที่ยวรอบๆ ประเทศฟิลิปปินส์อย่างปลอดภัยและสะดวก

เดินทางปลอดภัยและพำนักอยู่อย่างปลอดภัยด้วย GrabCar Protect จองการเดินทางด้วย GrabCar ในขณะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ – พาร์ทเนอร์คนขับของเราได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100% ทำให้การเดินทางของคุณไม่ยุ่งยาก

ขณะอยู่ในประเทศ ให้ Grab ดูแลเรื่องการส่งของ ซื้อของชำ สั่งอาหาร และการขนส่ง เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายและมีสมาธิกับการเดินทาง ของคุณ! สัมผัสรสชาติอาหารฟิลิปปินส์ได้ทุกที่ แม้กระทั่งที่บ้าน สั่งอาหารจาก Indie Eats ได้ที่ GrabFood

คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคในการสื่อสาร ติดต่อได้สะดวกกับคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติของ GrabChat ซึ่งข้อความของคุณ จะถูกแปลเป็นภาษาท้องถิ่นโดยอัตโนมัติ (และในทางกลับกัน) ศูนย์ช่วยเหลือของ Grab ก็มีให้บริการเป็นภาษาอังกฤษด้วย

แหล่งที่มา:

ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์
กรมการต่างประเทศ
สถานทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศสิงคโปร์

กว่า 90% ของประชากร 16 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้ราชอาณาจักรกัมพูชาได้ผ่อนคลายข้อกำหนดในการเข้าประเทศ และข้อจำกัดการเดินทาง พร้อมที่จะชักชวนนักเดินทางกลับเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นและปลอดภัยอีกครั้ง ข้อกำหนด ณ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2565 ผลการทดสอบ RT-PCR ที่เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทางไปยังกัมพูชาและการทดสอบแอนติเจน (ART) เมื่อเดินทางมาถึงได้รับการยกเว้นสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว อีกทั้งการกักตัวยังได้รับการยกเว้นโดยไม่ต้องคำนึงถึงการได้รับวัคซีนอีกด้วย

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางทุกคน

  • ผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม สามารถเข้าเยี่ยมชมประเทศกัมพูชาได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่านานสูงสุด 30 วัน นักเดินทางที่มีหนังสือเดินทางไทยสามารถพำนักอยู่ในกัมพูชาได้นานถึง 14 วัน สำหรับการเข้าพัก ระยะยาว นักเดินทาง สามารถยื่นขอวีซ่ากัมพูชาทางออนไลน์ ได้ ข้อกำหนดของวีซ่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นโปรดตรวจสอบเว็บไซต์ e-Visa บ่อยๆ เพื่อรับข้อมูลที่อัปเดต
  • การรับทราบ การแถลงหรือการยกเว้นให้สามารถเดินทางได้จากประเทศต้นทางของคุณ ถ้ามี
  • การสามใส่หน้ากากอนามัย: ในกัมพูชา ทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนต้องปฏิบัติตาม Three Do’s และ Three Don’ts:
    • สวมหน้ากากอนามัยอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ รักษาระยะห่าง 1.5 เมตร
    • อย่าอยู่ในที่คับแคบและที่ปิดมิดชิด อย่าไปในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกัน

ข้อกำหนดการเข้าเดินทางสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีน

  • สำหรับผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี: สำเนาเอกสารของการฉีดวัคซีนพร้อมประเภทและวันที่ของการฉีด วัคซีนควรใช้รหัส QR เพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเข้าสู่ประเทศกัมพูชา นักเดินทางที่อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ต้องแสดงหลักฐาน การฉีดวัคซีนเมื่อเข้าประเทศ
  • ตัวเลือกเพิ่มเติม: การประกันการเดินทางและสุขภาพสำหรับโรคโควิด-19 ที่ครอบคลุมถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แนะนำ Forte Insurance สำหรับผู้มาเยี่ยมที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
  • ตัวเลือกเพิ่มเติม: แม้ว่าการทดสอบแบบแอนติเจนจะไม่จำเป็นอีกต่อไปเมื่อเดินทางมาถึง แต่ขอแนะนำให้นักเดินทางทำการทดสอบด้วยตนเองขณะอยู่ในประเทศกัมพูชา

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศสำหรับนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนบางส่วนหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

  • การประกันการเดินทางและสุขภาพสำหรับโควิด-19 ที่ครอบคลุมถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ จาก Forte Insurance เป็นข้อบังคับสำหรับนักเดินทางบางส่วนหรือที่ไม่ได้รับวัคซีนทุกเพศทุกวัย
  • ณ วันที่ 11 กรกฎาคม นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน (รวมไปถึงเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน) ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง
    • อย่างไรก็ตาม นักเดินทางทุกคนจะต้องทำการทดสอบ Antigen Rapid Test (ART) ในราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดินทางมาถึง

ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อมูลในบทความนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2565

เตรียมพร้อม – ตรวจสอบรายการข้อกำหนดการเข้าประเทศกัมพูชาสำหรับปรินต์

การเดินทางไปรอบๆ กัมพูชาเป็นเรื่องง่ายด้วย Grab

เพลิดเพลินกับค่าโดยสารคงที่ล่วงหน้ากับ Grab ราคาค่าโดยสารคงที่และแสดงให้เห็นก่อนเดินทาง – ไม่จำเป็นต้องต่อรองราคา! ที่ Grab เราดำเนินการอย่างเหนือชั้นเพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยที่สูงขึ้น สนุกไปกับการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น สำหรับทั้งผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ด้วยการจอง GrabProtect – 80% ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น หมดกังวลเรื่องอุปสรรคด้านภาษาด้วยคุณสมบัติการแปลอัตโนมัติของ GrabChat ศูนย์ช่วยเหลือของ Grab พร้อมให้บริการทั้งภาษาอังกฤษและ ภาษาเขมรท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือลูกค้าหากมีข้อกังวลใดๆ

แหล่งที่มา:

สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ณ ประเทศสิงคโปร์
E-Visa สู่ราชอาณาจักรกัมพูชา
ราชอาณาจักรกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศ

 

ดาวน์โหลดแอป