เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไรดี แต่ละวิธีใช้งบเท่าไหร่

ต้องบินจากสุวรรณภูมิทั้งที หลายคนอาจเป็นกังวลว่า จะเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิยังไงดี? เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ทั้งเรื่องเวลา ค่าใช้จ่าย ความสะดวก และจำนวนสัมภาระ ไม่ว่าจะขับรถไปเอง ต่อรถไฟฟ้า เรียกรถผ่านแอป หรือจะขึ้นรถเมล์ รถตู้ ก็มีทางเลือกให้เลือกเพียบ บทความนี้ ได้รวมวิธีเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมแบ่งปันคำแนะนำว่า แบบไหนเหมาะกับใคร

Highlight

 

วิธีการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกเส้นทางไหนดี?

มาดูข้อดีข้อเสียของวิธีไปสนามบินสุวรรณภูมิแต่ละวิธีกันเลย เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า คุณควรเลือกเส้นทางไหนถึงจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วย Grab ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วย Grab ดีอย่างไร? 

การใช้บริการ Grab เพื่อเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ นับว่า เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารหลาย ๆ คน เนื่องจากมีข้อดีหลายข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  1. เลือกบริการได้หลากหลาย: มีทั้ง GrabCar, GrabCar Premium, GrabSUV ให้เลือกตามความเหมาะสมกับกลุ่มผู้โดยสารหรือผู้ร่วมทาง และสัมภาระ สามารถเลือกประเภทรถใหญ่สำหรับกลุ่มครอบครัวหรือใครที่มีสัมภาระจำนวนมาก
  2. Advance Booking จองรถล่วงหน้าได้: สามารถจองรถไปส่งสนามบินล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 90 วัน เสริมความอุ่นใจไม่พลาดไฟลต์แน่นอน อีกทั้งยังจองล่วงหน้าง่าย สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างรัดกุม
  3. คนขับรับ-ส่งตรงต่อเวลา: ในการจองล่วงหน้า Grab รับประกันว่า คนขับจะมารอรับล่วงหน้าก่อนเวลานัด 15 นาที และสามารถรอผู้โดยสารได้นานถึง 15 นาที ช่วยให้มีเวลาทำธุระหรือรอรับสัมภาระโดยไม่ต้องเร่งรีบ
  4. แจ้งเตือนและติดตามสถานะได้เรียลไทม์: เมื่อมีการกดรับงาน จะมีการแจ้งเตือน และสามารถติดตามโลเคชั่นของรถได้ตลอดการเดินทาง
  5. การจองยืดหยุ่น: สามารถยกเลิกหรือแก้ไขการจองได้ล่วงหน้าก่อนถึงเวลานัดหมายตามระยะเวลาที่กำหนดโดยจะไม่มีค่าธรรมเนียม และในกรณีคนขับมีการยกเลิกทางระบบจะหาคันใหม่ให้ทันที
  6. ราคาชัดเจนและโปร่งใส: ค่าโดยสารจะถูกล็อกตั้งแต่ตอนจอง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงแม้ในชั่วโมงเร่งด่วนหรือวันหยุด สบายใจได้ตลอดการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
  7. หมดกังวลเรื่องรถคิวหน้าสนามบิน: ไม่ต้องต่อแถวรอแท็กซี่หรือรอรถสาธารณะให้เสียเวลา

 

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (Airport Rail Link) ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (Airport Rail Link) ดีอย่างไร? 

การนั่งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (Airport Rail Link) เป็นวิธีไปสนามบินสุวรรณภูมิที่ทั้งง่าย และประหยัด เหมาะกับใครที่จะเดินทางคนเดียวหรือมีสัมภาระไม่มาก

สถานีที่เชื่อมต่อ:

  • สถานีต้นทาง: พญาไท (Phaya Thai) เชื่อมกับ BTS สายสุขุมวิท
  • สถานีรอง: ราชปรารภ, มักกะสัน (เชื่อมต่อ MRT เพชรบุรี), รามคำแหง, หัวหมาก (เชื่อมต่อ MRT พัฒนาการ), บ้านทับช้าง, ลาดกระบัง
  • สถานีปลายทาง: สุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi) (ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ)

เวลาให้บริการ:

  • วันธรรมดา: 05:30 – 00:00 น.
  • วันหยุด: 05:30 – 00:00 น.
  • รอบรถ: ทุก 15-20 นาที

ค่าโดยสาร:

  • จากพญาไท → สุวรรณภูมิ: 45 บาท
  • จากมักกะสัน → สุวรรณภูมิ: 35 บาท
  • จากรามคำแหง → สุวรรณภูมิ: 25 บาท
  • จากลาดกระบัง → สุวรรณภูมิ: 15 บาท

*เหตุราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ข้อดี:

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด: เดินทางตรงตามเวลา ไม่เสี่ยงพลาดไฟลต์ในชั่วโมงเร่งด่วน
  • ค่าบริการประหยัด: ค่าโดยสารถูกกว่าแท็กซี่หรือรถส่วนตัว เหมาะกับใครที่ต้องการประหยัดงบ
  • เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอื่น: สะดวกสำหรับใครที่เดินทางต่อจาก BTS (สถานีพญาไท) หรือ MRT (สถานีมักกะสัน-เพชรบุรี)
  • ใช้เวลาเดินทางคงที่: โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 26 นาที ระหว่างพญาไท-สุวรรณภูมิ

ข้อเสีย:

  • ต้องเปลี่ยนขบวนหากไม่ได้เริ่มต้นตามแนวรถไฟฟ้า: ถ้าบ้านอยู่ไกลจาก Airport Rail Link หรือสาย BTS/MRT อาจต้องต่อรถหลายต่อ
  • มีข้อจำกัดเรื่องสัมภาระ: อาจไม่เหมาะกับใครที่เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่หรือมีสัมภาระขนาดใหญ่หลายชิ้น
  • ชั่วโมงเร่งด่วนคนแน่น: โดยเฉพาะต้นสาย อาจต้องแย่งที่นั่งหรือยืนตลอดทาง
  • เวลาให้บริการมีจำกัด: ไม่มีให้บริการ 24 ชั่วโมง ดังนั้น ต้องตรวจสอบเวลารถไฟล่วงหน้า

 

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถไฟฟ้า BTS ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถไฟฟ้า BTS ดีอย่างไร? 

สำหรับใครที่อาศัยหรือทำงานใกล้แนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท สามารถไปสนามบินสุวรรณภูมิด้วย BTS ได้เช่นกัน ถึงแม้ BTS จะยังไม่มีสายที่วิ่งตรงถึงสนามบิน แต่สามารถต่อกับแอร์พอร์ตลิงก์ (Airport Rail Link) ได้อย่างสะดวกสบาย

สถานีที่ให้บริการ:

  • สถานีพญาไท (BTS สายสีเขียว): เป็นสถานีหลักที่สามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link เพื่อมุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิ
  • สถานีกลางบางซื่อ (BTS สายสีแดง): สามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงิน สถานีเพชรบุรี และเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีมักกะสัน เพื่อเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
  • สถานีพัฒนาการ (MRT สายสีเหลือง): เปลี่ยนสายต่อรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ
  • สถานีเพชรบุรี (MRT สายสีน้ำเงิน): เดินจากสถานีเพชรบุรี ทางออก 1 เชื่อมต่อไปยัง Airport Rail Link สถานีมักกะสัน และนั่งตรงไปสนามบินสุวรรณภูมิ

วิธีเปลี่ยนสายที่สถานีพญาไท

ขั้นตอนที่ 1: ลงที่สถานี BTS พญาไท 

ขั้นตอนที่ 2: ตามป้าย “Airport Rail Link” (มีป้ายชัดเจน) 

ขั้นตอนที่ 3: เดินประมาณ 5 นาที เชื่อมต่อไปยังสถานี ARL 

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อตั๋ว ARL ที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ เวลารวม: ประมาณ 10 นาทีสำหรับเปลี่ยนสาย

ข้อดี:

  • สะดวกสำหรับใครที่อยู่ในแนว BTS: สามารถเดินทางจากใจกลางเมืองแล้วต่อ Airport Rail Link ที่สถานีพญาไท เพื่อไปยังสนามบินได้อย่างง่ายดาย
  • ไม่ต้องลุ้นรถติด: กำหนดการเดินรถแน่นอน ตรงต่อเวลา

ข้อเสีย:

  • ต้องเปลี่ยนขบวน: ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนขบวนจาก BTS ไปยัง Airport Rail Link ที่สถานีพญาไทจึงจะเข้าสนามบินได้
  • อาจไม่สะดวกหากมีสัมภาระเยอะ: ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัมภาระขนาดใหญ่บน BTS และการเปลี่ยนขบวนอาจไม่เหมาะกับผู้ที่เดินทางพร้อมกระเป๋าหลายใบ
  • อาจมีคนหนาแน่นช่วงเวลาเร่งด่วน: โดยเฉพาะช่วงเช้า และเย็น อาจต้องยืนตลอดทาง ซึ่งหากมีสัมภาระเยอะ อาจไม่สะดวก

 

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถโดยสารประจำทาง ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถโดยสารประจำทาง ดีอย่างไร? 

การนั่งรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือมีงบจำกัด โดยมีสายที่ให้บริการครอบคลุมจากทั่วกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล

สายที่ให้บริการ:

สาย ต้นทาง – ปลายทาง เวลาให้บริการ ค่าโดยสาร
554 รังสิต – สุวรรณภูมิ (รามอินทรา) 05.00-20.40 น. 24-35 บาท
558 เซ็นทรัลพระราม 2 – สุวรรณภูมิ 05.00-20.40 น. 45-50 บาท
S1 สนามหลวง – สุวรรณภูมิ  06.00-20.00 น. 60 บาท

หมายเหตุ: ราคาและเวลาการเดินรถอาจมีการเปลี่ยนแปลง 

ข้อดี:

  • ประหยัดค่าเดินทาง: ราคาถูกเมื่อเทียบกับการเดินทางแบบอื่น ๆ เหมาะกับใครที่มีงบน้อยหรือเดินทางคนเดียว
  • ครอบคลุมหลายพื้นที่: มีสายรถที่ผ่านหลายจุดสำคัญของกรุงเทพฯ ต่อเดียวถึงสนามบิน

ข้อเสีย:

  • รถติดและเวลาคาดเดายาก: ใช้เวลามากกว่ารถไฟฟ้าหรือแท็กซี่ โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน
  • สัมภาระอาจไม่สะดวก: ไม่เหมาะกับใครที่มีสัมภาระขนาดใหญ่หรือกระเป๋าหลายใบ
  • ต้องตรวจสอบเวลาและสายรถ: บางสายหยุดให้บริการเร็ว หรือมีข้อจำกัดด้านเวลาเดินรถ
  • อาจต้องรอรถนาน/คนแน่น: โดยเฉพาะสายยอดนิยม รถแน่นในบางช่วงเวลา

 

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถยนต์ส่วนตัว ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถยนต์ส่วนตัว ดีอย่างไร? 

การขับรถยนต์ส่วนตัวไปสนามบินสุวรรณภูมิเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลาย ๆ คนนิยม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือใครที่มีสัมภาระหรือกระเป๋าหลายใบ และต้องการความสะดวกสบาย เป็นส่วนตัว

ข้อดี:

  • ความเป็นส่วนตัวและอิสระ: เวลาออกเดินทางยืดหยุ่น สามารถกำหนดเวลาเดินทางของตัวเองได้
  • สะดวกสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่มหรือสัมภาระเยอะ: เหมาะกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน และใครที่มีสัมภาระหลายชิ้นหรือมีสัมภาระขนาดใหญ่

ข้อเสีย:

  • ค่าใช้จ่ายสูง: ต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าจอดรถ (แบบค้างคืนราคาประมาณ 250 บาท ต่อ 24 ชั่วโมง)
  • ต้องหาที่จอดรถ: หากเดินทางช่วงเทศกาลหรือวันหยุด ที่จอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารอาจเต็ม

 

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถตู้ ดีอย่างไร

เดินทางไปสุวรรณภูมิด้วยรถตู้ ดีอย่างไร? 

รถตู้โดยสารเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิจากชานเมืองหรือจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงกรุงเทพฯ หลายพื้นที่ มีจุดขึ้นรถหลากหลาย เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หมอชิต รังสิต เอกมัย

สายที่ให้บริการ:

สาย ต้นทาง – ปลายทาง เวลาให้บริการ ค่าโดยสาร
549 มีนบุรี – สุวรรณภูมิ 05.00-21.45 น. 15-25 บาท
552 อ่อนนุช – สุวรรณภูมิ 05.00-22.00 น. 20 บาท
552A ปากน้ำ – สุวรรณภูมิ 05.00-22.00 น. 25 บาท
559 รังสิต – สุวรรณภูมิ (ทางด่วน) 06.00-23.00 น. 34 บาท

หมายเหตุ: ราคาและเวลาการเดินรถอาจมีการเปลี่ยนแปลง 

ข้อดี:

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: ค่าโดยสารรถตู้ถูกกว่าการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เหมาะสำหรับใครที่เดินทางคนเดียวหรือเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก
  • มีรอบและเส้นทางหลากหลาย: มีบริการในหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงบางจังหวัด สามารถเลือกขึ้นรถจากจุดที่ใกล้บ้านได้
  • พาเข้าสนามบินถึงที่: รถตู้สายสนามบินสุวรรณภูมิส่วนใหญ่จะจอดที่อาคารผู้โดยสาร ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนพาหนะระหว่างทาง
  • เหมาะกับผู้เดินทางเวลาปกติ: มีรอบรถตลอดวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงค่ำ (เวลารอรอบอาจขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยว)

ข้อเสีย:

  • ไม่เหมาะกับสัมภาระขนาดใหญ่หรือเยอะ: พื้นที่เก็บกระเป๋ามีจำกัด หากมีกระเป๋าใบใหญ่หรือหลายใบ อาจไม่สะดวก
  • ผู้โดยสารจำนวนมากต้องรอคิว: ถ้าช่วงเวลายอดนิยม อาจต้องรอรอบรถนานโดยเฉพาะวันหยุดหรือเทศกาล

 

เคล็ดลับเลือกวิธีไปสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไรให้เหมาะกับเราที่สุด?

การตัดสินใจเลือกวิธีเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิให้เหมาะสม ควรพิจารณาหลายปัจจัย เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น และถึงจุดหมายได้อย่างอุ่นใจ

  • เลือกตามงบประมาณ

    • หากมีงบประมาณจำกัดหรือต้องการประหยัด รถเมล์ รถตู้ หรือ Airport Rail Link อาจตอบโจทย์กว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะอยู่ที่หลักสิบถึงหลักร้อยบาท
    • กรณีที่มีงบมากขึ้นหรือเดินทางหลาย ๆ คน เลือกใช้บริการ Grab หรือ รถยนต์ส่วนตัว อาจเหมาะสมกว่า แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น แต่ก็ได้ความสะดวกสบายมากขึ้นเช่นกัน
  • เลือกตามเวลาและความสะดวก

    • หากต้องการความรวดเร็วหรือต้องการเลี่ยงการจราจรติดขัด Airport Rail Link หรือ BTS ต่อ Airport Rail Link ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์
    • ส่วนใครที่ต้องการความยืดหยุ่นหรือจำเป็นต้องเดินทางในตอนดึกมากหรือเช้ามาก Grab หรือรถยนต์ส่วนตัว จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
  • เลือกตามจำนวนสัมภาระ

    • หากมีสัมภาระเยอะหรือมีเด็ก/ผู้สูงอายุร่วมทริปด้วย Grab หรือรถยนต์ส่วนตัว จะสะดวกมากกว่า เพราะช่วยประหยัดแรง ไม่ต้องยกของหลายต่อ
  • เลือกตามจุดเริ่มต้น

    • หากอยู่ใกล้แนว BTS/MRT/Airport Rail Link สามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวถึงสนามบิน
    • หากอยู่ชานเมืองหรือจังหวัดใกล้เคียง รถตู้หรือรถโดยสารประจำทาง บางเส้นทาง อาจสะดวก และคุ้มค่าที่สุด
    • สำหรับใครที่อยู่ห่างจากระบบขนส่งสาธารณะ หรือต้องเดินทางในช่วงดึก/เช้ามาก รวมถึงมีสมาชิกเดินทางหลายคน สามารถเรียกใช้บริการ Grab หรือขับรถส่วนตัว

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

  1. ตรวจสอบ Terminal – สุวรรณภูมิมีเฉพาะ Terminal เดียว (ง่ายกว่าดอนเมือง)
  2. เผื่อเวลา 2-3 ชั่วโมง – สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
  3. เผื่อเวลา 1-2 ชั่วโมง – สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ
  4. ดาวน์โหลดแอป AOT Airports – ดูข้อมูลไฟลต์เรียลไทม์

ข้อควรระวังที่ควรเลี่ยง

  • ไม่เผื่อเวลารถติด (โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน)
  • ไม่เช็กเวลาให้บริการของ ARL
  • ขึ้นรถเมล์/รถตู้สายผิด
  • ไม่จองรถล่วงหน้า (ช่วงเทศกาล)

ติดตั้งแอปที่จำเป็น

  • Waze (เส้นทางแบบเรียลไทม์)
  • AOT Airports (ข้อมูลสนามบิน)
  • Grab Driver (บริการรับส่งที่สนามบิน)

 

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ มีอะไรบ้าง

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ มีอะไรบ้าง

มาดูสรุปคำแนะนำในการไปสนามบินสุวรรณภูมิไปพร้อมกันเลย

  1. หากเดินทางจากใจกลางเมืองและต้องการความรวดเร็ว ARL คือตัวเลือกที่ดี

    • Airport Rail Link (ARL) เป็นระบบรางที่วิ่งตรงจากใจกลางกรุงเทพฯ สู่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาประมาณ 26 นาที สามารถคาดการณ์เวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ หมดกังวลเรื่องรถติด
  2. หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่รีบร้อน รถโดยสารประจำทางเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

    • วิธีการเดินทางด้วยรถเมล์หรือรถตู้สายตรงเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด แต่ต้องเผื่อเวลารถติด และวางแผนสำรองหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
  3. ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและเส้นทางก่อนออกเดินทาง

    • ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟฟ้า รถโดยสาร เส้นทางเข้า-ออกสนามบิน และข้อจำกัดต่างๆ จากแหล่งข้อมูลล่าสุด เพื่อป้องกันปัญหาการเดินทางล่าช้าหรือขึ้นผิดสาย หรือสามารถจองบริการ Grab ล่วงหน้าด้วยฟีเจอร์ Advance booking เพื่อความสบายใจ สามารถไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ตรงเวลา ไม่พลาดไฟลต์แน่นอน
  4. หากเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน ควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทาง

    • การจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะช่วงเช้า และเย็น อาจทำให้เสียเวลามากกว่าปกติ ควรเผื่อเวลาเดินทางไปถึงสนามบินอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเช็กอิน โดยเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศ

 

การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิมีหลากหลายทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการ และงบประมาณที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่มองหาทางเลือกเดินทางแบบไร้กังวล ด้วยบริการ และประสบการณ์เหนือระดับ “Grab” คือคำตอบ เพราะ Grab มีบริการรองรับที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น GrabCar, GrabCar Premium, Grab SUV ไปจนถึง GrabExecutive ที่ให้คุณเลือกใช้รถหรู เช่น Mercedes Benz E Class, BMW Series 5, Toyota Vellfire หรือ Toyota Alphard สำหรับการเดินทางที่ต้องการความพรีเมียม

นอกจากนี้ Grab ยังโดดเด่นด้วยบริการ Advance Booking ที่ให้คุณจองรถล่วงหน้าได้ล่วงหน้ายาวสูงสุดถึง 90 วัน ระบบจะล็อกค่าโดยสาร และเตรียมรถไว้ล่วงหน้า ไม่ต้องกลัวตกไฟลต์หรือต้องรีบไปต่อคิวรถแท็กซี่ยาว ๆ ที่สนามบิน พร้อมการันตีรับ – ส่งตรงเวลา มีระบบแจ้งเตือน และตรวจสอบสถานะรถได้แบบเรียลไทม์ และยกเลิกได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ส่วนใครที่กำลังมองหาโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคง อย่ารอช้า รีบสมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Grab ไม่ว่าจะ GrabBike หรือ GrabCar สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

FAQ

Q: Grab หรือแท็กซี่ที่สุวรรณภูมิ สามารถหารถตอนไหนได้บ้าง?

A: มีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเที่ยวบินดึกหรือเช้าแค่ไหน สามารถเรียกใช้บริการจาก Grab กดจองล่วงหน้าได้

Q: ถ้านำรถจักรยานยนต์ไปจอดสนามบิน มีที่จอดไหม?

A: มีที่จอดรถจักรยานยนต์เฉพาะ จุดจอดอยู่ใกล้อาคารผู้โดยสาร โดยค่าใช้จอดเริ่มที่ 10 – 70 บาทตามระยะเวลา

Q: ถ้าต้องเดินทางไปสนามบินหลังเที่ยงคืน ไม่มีรถไฟฟ้า Airport Rail Link จะทำอย่างไร?

A: หลังเที่ยงคืนไม่มีรถไฟฟ้าให้บริการแล้ว สามารถเรียกใช้บริการ Grab ไปสนามบินสุวรรณภูมิแทนได้

Q: จุดรับ Grab ของสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ตรงไหน?

A: จุดรับ Grab อยู่หน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 4

Q: สามารถนัดรับ-ส่งผู้โดยสารที่อาคารสนามบินได้หรือไม่?

A: สามารถรับ-ส่งได้ที่ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร (ขาเข้า) มีพื้นที่จอดรถรับส่งไม่เกิน 15 นาที 

 

แหล่งอ้างอิง:

Check Parking Information and Fees จาก AOT

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จาก SAWASDEE THAILAND

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง จาก ebm

จองรถรับส่งล่วงหน้าให้รับ-ส่งได้ทันเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง จาก Grab