แม้ว่า การขับขี่รถจักรยานยนต์จะให้ความคล่องตัว และความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากผู้ขับขี่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังด้านความปลอดภัย วันนี้ Grab จะมาบอกต่อลิสต์อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ขับขี่ พร้อมแนะนำวิธีการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย และข้อควรระวังพิเศษในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ควรรู้
Highlight
- อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ขับขี่ มีอะไรบ้าง?
- วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย มีอะไรบ้าง?
- ข้อควรระวังพิเศษในการขับขี่รถจักรยานยนต์ มีอะไรบ้าง?
- กฎหมายมอเตอร์ไซค์ที่ควรรู้เบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ขับขี่ มีอะไรบ้าง?
การขับขี่ปลอดภัยมอเตอร์ไซค์ เริ่มได้ง่าย ๆ จากการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ โดยอุปกรณ์ที่ทุกคนควรมี ได้แก่
- หมวกกันน็อก: เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นที่สุด เพราะจะช่วยลดแรงกระแทกต่อศีรษะ ป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิต และควรสวมให้ถูกต้อง โดยรัดสายรัดคางทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล
- เสื้อแจ็กเก็ตป้องกัน: ควรเลือกเสื้อแจ็กเก็ตที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง และบุช่องเสริมพิเศษบริเวณข้อศอก ไหล่ หลัง ช่วยซึมซับแรงกระแทกเวลาเกิดอุบัติเหตุ และเลือกเสื้อสะท้อนแสงหรือมีสีสว่าง เพื่อเพิ่มการสังเกตเห็นจากผู้ใช้รถคนอื่น
- ถุงมือสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์: ปกป้องมือจากการเสียดสี และแรงกระแทกขณะล้ม อีกทั้งยังลดความเสี่ยงกระดูกมือแตกหัก และช่วยเพิ่มการยึดเกาะแฮนด์
- กางเกงและสนับเข่า: เลือกใส่กางเกงหนา หรือที่มีแผ่นกันกระแทกป้องกันช่วงขา และเข่า หรืออาจใส่สนับเข่า และสนับแข้ง เพื่อช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ
- รองเท้าหุ้มส้น: ลดโอกาสบาดเจ็บจากการเหยียบหรือถูกบิดของข้อเท้า
- แว่นตาหรือชิลด์ป้องกันสายตา: เพื่อป้องกันเศษหิน ฝุ่นละออง แมลง และแสงจ้า ไม่ให้กระทบต่อการขับขี่ สามารถเลือกหมวกกันน็อกแบบเต็มใบที่มีชิลด์ในตัว

วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย มีอะไรบ้าง?
การขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องอาศัยความระมัดระวังสูง เพราะผู้ขับขี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้ขับขี่รถประเภทอื่น เพราะฉะนั้นการมีวินัย และใส่ใจในความปลอดภัยจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอันตรายได้
-
เรียนรู้และฝึกฝนทักษะในการขับขี่อย่างปลอดภัย
- ศึกษากฎจราจร และหลักพื้นฐานของการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างจริงจัง
- เข้าอบรมหลักสูตรการขับขี่ปลอดภัยตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น
- ฝึกฝนทักษะการควบคุมรถ เช่น การเบรก การเข้าโค้ง และการหลบหลีกสิ่งกีดขวางอย่างต่อเนื่อง
-
ตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนการเดินทาง
- ตรวจเช็กเบรก ยาง ระบบไฟ สัญญาณไฟต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์
- ตรวจสอบปริมาณน้ำมัน และของเหลวอื่น ๆ เช่น น้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก
- ดูแลให้รถไม่มีสิ่งผิดปกติ เช่น เสียงผิดปกติ หรือชิ้นส่วนหลุดหลวม
-
ปฏิบัติตามกฎจราจร
- เคารพ และปฏิบัติตามป้าย สัญญาณไฟ และเครื่องหมายจราจร
- ขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ขับย้อนศร
- ให้ทางแก่รถคันอื่นตามลำดับสิทธิ์ในกรณีที่จำเป็น
-
เมาไม่ขับ
- หลีกเลี่ยงการขับขี่รถจักรยานยนต์ หากได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หากจำเป็นควรใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือมีคนใกล้ชิดขับขี่แทน
-
ไม่ควรขับแซง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน
- หากต้องการแซงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปลอดภัย และมีระยะห่างที่เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนฉับพลันหรือขับปาดหน้า เพราะอาจเกิดอันตรายได้ ควรเปิดสัญญาณไฟก่อนทุกครั้ง
-
หลีกเลี่ยงการขับขี่เข้าใกล้รถบรรทุกขนาดใหญ่
- เว้นระยะห่างจากรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ เพราะมีจุดอับสายตา และอาจเกิดอุบัติเหตุหนักได้ง่าย
- ระวังลมปะทะหรือวัตถุตกหล่นจากรถบรรทุก
-
สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง
- ควรเลือกหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน และสวมใส่ให้ถูกวิธีทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้หรือไกล เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น หมวกกันน็อกจะช่วยลดความรุนแรงบริเวณศีรษะได้
-
ห้ามดัดแปลงสภาพรถ
- ไม่ควรปรับแต่งหรือดัดแปลงโครงสร้าง, เครื่องยนต์, ไฟ หรือเสียงรถให้ผิดไปจากมาตรฐานโรงงาน
- การดัดแปลงอาจทำให้สมรรถนะลดลง และเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ อีกทั้งอาจผิดกฎหมาย
ข้อควรระวังพิเศษในการขับขี่รถจักรยานยนต์ มีอะไรบ้าง
เหล่าไรเดอร์หรือใครที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงหรือแตกต่างไปจากปกติ ไม่ว่าจะเป็น
-
การขับขี่ในเวลากลางคืน
- การขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัยในตอนกลางคืน ควรตรวจสอบระบบไฟส่องสว่างทุกดวง เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และปรับระดับไฟหน้าให้เหมาะสม
- สวมใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์สะท้อนแสง เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ลดความเร็วลงมากกว่าปกติ และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า
- หลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะง่วงนอนหรือเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า
-
การขับขี่ในสภาพอากาศไม่ดี
- ตรวจสอบยาง เบรก และระบบไฟของรถให้สมบูรณ์ก่อนออกเดินทาง
- สวมเสื้อกันฝน และอุปกรณ์แต่งกายที่มีสีสว่าง เพื่อเพิ่มการมองเห็น
- ลดความเร็ว และเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า รวมถึงเผื่อระยะเบรกให้มากขึ้น เพราะถนนลื่นอาจทำให้ล้อเสียการยึดเกาะ
- หลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำ หรือน้ำท่วมขัง เพราะอาจซ่อนหลุมหรือสิ่งกีดขวางใต้ผิวน้ำ
- งดใช้เบรกฉับพลัน และปรับความเร็วโดยการผ่อนคันเร่งเป็นหลัก หากฝนตกหนักควรหยุดพักทันที
-
การขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
- ศึกษาเส้นทางล่วงหน้าให้ดี หรือใช้แผนที่นำทางช่วยในกรณีที่ต้องไปเส้นทางใหม่
- ชะลอความเร็ว และสังเกตป้ายเตือน รวมถึงลักษณะของทางโค้ง ทางลาดชัน และแยกต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา
- หลีกเลี่ยงการแซงในเขตโค้งหรือทางแคบ ไม่เปลี่ยนเลนฉับพลัน และระวังรถที่วิ่งสวนหรือจอดริมทาง
- ตรวจสอบทั้งด้านหน้า และด้านหลังบ่อยครั้งขึ้นเมื่ออยู่บนเส้นทางใหม่
-
สภาพรถไม่สมบูรณ์
- ตรวจสอบ และบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะระบบเบรก ไฟ ยาง และกระจกมองข้าง
- หากพบว่า รถมีเสียหาย หรือระบบใดทำงานไม่ปกติ ควรซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ทันที
- ตรวจสภาพรถตามรอบระยะที่กฎหมายกำหนดโดยเฉพาะเมื่อรถมีอายุใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป
-
ขับขี่ออกมาจากมุมอับสายตา
- ระวังจุดอับสายตาของรถขนาดใหญ่หรือขณะออกจากซอย โดยไม่ควรเร่งเครื่องตัดหน้ากะทันหัน
- หมั่นมองกระจกมองข้าง และเช็กทิศทางของรถคันอื่นให้แน่ใจก่อนเคลื่อนที่ออกจากมุมอับ
- ปรับกระจกมองข้างให้ถูกต้องทุกครั้ง เพื่อขยายขอบเขตการมองเห็น ลดความเสี่ยงถูกชนจากรถที่มองไม่เห็น
กฎหมายมอเตอร์ไซค์ที่ควรรู้เบื้องต้นมีอะไรบ้าง?
กฎระเบียบพื้นฐานต่อไปนี้เป็นสิ่งจำเป็นกับการขับขี่ปลอดภัยมอเตอร์ไซค์ ทุกคนควรจะต้องทราบและยึดถือปฏิบัติอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้เส้นทางอย่างปลอดภัย ซึ่งข้อบังคับเกี่ยวกับการควบคุมรถจักรยานยนต์ขั้นพื้นฐาน มีดังนี้
| ข้อ | กฎหมาย | รายละเอียด |
| 1 | น้ำหนักและผู้โดยสาร | บรรทุกไม่เกิน 50 กก. ซ้อนท้ายได้ 1 คนเท่านั้น |
| 2 | ความเร็ว | ไม่เกิน 80 กม./ชม. ในเขตเมือง และ 90 กม./ชม. นอกเขต (ปฏิบัติตามป้ายจราจร) |
| 3 | สัญญาณล่วงหน้า | ให้สัญญาณล่วงหน้าอย่างน้อย 30 เมตร ก่อนเลี้ยว เปลี่ยนช่อง ลดความเร็ว หรือหยุด |
| 4 | ไฟเลี้ยว | ใช้ไฟสัญญาณกะพริบเมื่อเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทาง |
| 5 | การแซง | ใช้ไฟสัญญาณด้านซ้ายหรือท้ายรถเมื่อจะให้แซง |
| 6 | คนเดินเท้า | ระวังไม่ให้ชนและเตือนเมื่อจำเป็น |
| 7 | การขับขี่ | ขับในช่องซ้ายไม่ล้ำกึ่งกลาง (ยกเว้นมีสิ่งกีดขวาง ถนนปิด เป็นทางเดียว หรือช่องกว้างไม่ถึง 6 เมตร) |
การขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ทักษะการขับขี่เท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐาน ปฏิบัติตามกฎจราจร และระวังเป็นพิเศษในสถานการณ์เสี่ยงต่าง ๆ หากเราระมัดระวังรอบด้าน และเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์อยู่เสมอ จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่เอง และผู้ใช้ถนนคนอื่น ส่วนใครที่กำลังมองหาโอกาสในการมีรายได้เสริมหรืออยากสมัครเป็นคนขับพาร์ทเนอร์กับแกร็บ อย่ารอช้า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดการสมัคร GrabBike และ GrabCar เพิ่มเติมได้เลย
FAQ
Q: เมื่อเจอสภาพถนนที่เสี่ยงอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร?
A: กรณีฝนตก ถนนจะลื่นมาก ควรลดความเร็วลงหรือจอดพักรอฝนหยุด ส่วนกรณีขับขี่บนถนนขรุขระ เป็นหลุมบ่อ มีน้ำขัง ควรขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ จับแฮนด์รถให้มั่นคง ไม่ควรกำเบรก เพื่อป้องกันรถเสียการควบคุม
Q: การใช้ไฟส่องสว่างตอนกลางคืนควรทำอย่างไร?
A: เปิดไฟหน้าไว้ตลอดเวลา และใช้ไฟสูงช่วยเมื่อยามจำเป็น เช่น เส้นทางที่มืดมากจนมองไม่เห็นทางด้านหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น
Q: ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนฝนตกต้องระวังอะไรบ้าง?
A: ลดความเร็วในการขับขี่รถจักรยานยนต์จะช่วยลดอาการลื่นไถลได้มากขึ้น เพิ่มระยะห่างระหว่างมอเตอร์ไซค์ของเรากับรถคันหน้า หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่ และใช้วิธีผ่อนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็วแทนการเบรกทันที
Q: หลังจากขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำแล้วต้องทำอะไรบ้าง?
A: ติดเครื่องไว้สักพักเมื่อขับพ้นน้ำท่วม เพื่อไล่ไอน้ำ และความชื้นออก ป้องกันการเกิดสนิมในท่อไอเสีย และหลังขับลุยน้ำ ควรเช็กสภาพรถว่า มีส่วนใดเสียหายหรือไม่
Q: เทคนิคการขี่มอเตอร์ไซค์ทางโค้งที่ถูกต้องมีอะไรบ้าง?
A: ใช้สายตาประเมินเส้นทาง สังเกตสภาพพื้นผิวถนน ลดความเร็วลงก่อนเข้าโค้ง กรณีเป็นเกียร์ธรรมดา เปลี่ยนเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เมื่อเข้าโค้งบนถนนที่เปียกหรือลื่น ควรเข้าโค้งอย่างช้า ๆ และขับขี่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
แหล่งอ้างอิง:
ขี่มอเตอร์ไซค์ ทำตามนี้…ขี่ง่าย ปลอดภัยขึ้นเยอะ จาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก
9 เทคนิคขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย จาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก