สรุปกฎหมายจราจรใหม่ ค่าปรับจราจรใหม่ล่าสุด มีโทษอะไรบ้าง 2567

การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับขี่อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ การปรับปรุงกฎหมายจราจรใหม่ล่าสุดมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนน ลดอุบัติเหตุ และส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี โดยกฎหมายฉบับใหม่มักจะมาพร้อมกับค่าปรับที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสะท้อนถึงความรุนแรงของการกระทำผิดและกระตุ้นให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด  Grab เลยรวบรวมกฎหมายจราจรใหม่ 2567 หากทำผิดกฎจะโดนอะไรบ้างมาฝากกันค่ะ

กฎหมายจราจรใหม่และค่าปรับจราจรใหม่ล่าสุด

กฎหมายจราจรใหม่และค่าปรับจราจรใหม่ล่าสุด

โดยกฎหมายจราจรใหม่มีการปรับอัตราโทษและเพิ่มบทลงโทษสำหรับความผิดหลายกรณี มีรายละเอียดดังนี้

  • ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
  • ฝ่าสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
  • ขับรถผ่านทางม้าลายโดยไม่หยุดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
  • ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
  • ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
  • ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
  • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ปรับ 5,000 – 20,000 บาทและจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ (เดิม 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
  • ขับขี่บนทางเท้า ปรับ 400 – 1,000 บาท และผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินส่วนแบ่งเป็นกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
  • ไม่หยุดรถหลังเส้นหยุดรถบริเวณสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • กลับรถที่ทางร่วมทางแยก (โดยไม่มีเครื่องหมายจราจรอนุญาต) ปรับ 400 – 1,000 บาท
  • ไม่ดื่มสุราหรือเสพยาเสพติดก่อนหรือระหว่างการขับขี่ จำคุกไม่เกิน 1 ปี มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • แข่งรถบนถนนทางสาธารณะ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังมีการปรับอัตราโทษอื่น ๆ อีก สามารถเข้าไปดูได้ที่ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางสายด่วนจราจร 1197

กฎหมายจราจรใหม่และอัตราโทษที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ

กฎหมายความเร็วใหม่ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง?

ในส่วนของกำหนดความเร็วสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภทขณะใช้รถและถนน ซึ่งกฎหมายความเร็วใหม่แบ่งออกได้ตามประเภทของยานพาหนะ ดังต่อไปนี้

  • รถยนต์ 4 ล้อ : ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 110 กม./ชม. แต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าอยู่เลนขวาสุด จะต้องมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.
  • รถบรรทุกและรถโดยสารที่จุได้มากกว่า 15 ที่นั่ง : กำหนดความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กม./ชม.
  • รถบรรทุกผู้โดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน : ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
  • รถมอเตอร์ไซค์ : ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาด 400 ซีซีขึ้นไป : ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
  • รถสำหรับลากจูง รถสามล้อ และรถยนต์สี่ล้อขนาดเล็ก : ไม่เกิน 65 กม./ชม.
  • รถยนต์ 4 ล้อ : ขับบนทางด่วนได้ไม่เกิน 100 กม./ชม.
  • รถบรรทุกมากกว่า 2,200 กิโลกรัม หรือรถโดยสารเกิน 15 คน : ขับบนทางยกระดับหรือทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.
  • รถโรงเรียน-รับส่งนักเรียน : ขับบนทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.

นอกจากกฎหมายที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุและกฎหมายความเร็วแล้ว ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • ไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ขับขี่ในขณะที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ ถูกยึด ถูกเพิกถอนหรือถูกพักใช้ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

กฎหมายจราจรใหม่เกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ

กฎหมายจราจรใหม่เกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ

ข้อกฏหมายจราจรใหม่นี้น่าจะถูกใจพี่ ๆ ที่ถูกรบกวนจากเหล่านักบิดในยามวิกาล การแข่งรถบนถนนหลวง มีโทษปรับ และบทลงโทษ ดังนี้

  • กรณีรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป พร้อมกับมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฐานความผิดในการแข่งรถในทางสาธารณะ เช่น นัดหมายแข่งรถล่วงหน้า ดัดแปลงสภาพรถเพื่อแข่งแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และแสดงพฤติกรรมให้เห็นว่าเจตนาแข่งรถ จะถือว่ามีโทษ 2 ใน 3 ฐานแข่งรถในทางสาธารณะ มีโทษปรับ 5,000 – 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • กรณีเป็นผู้ป่าวประกาศ หรือชักชวนให้เกิดการแข่งรถในทางสาธารณะเกิดขึ้น มีโทษปรับ 10,000 – 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ร้านที่ช่วยแต่งรถให้ถือว่ามีความผิดร่วม ในฐานะผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3 ฐานแข่งรถในทางสาธารณะด้วยเช่นกัน มีโทษปรับ 5,000 – 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

กฎหมายเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ

เกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่ 

สำหรับกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดคะแนนพฤติกรรมของผู้ขับขี่จะถูกตัดตามระดับความรุนแรงของความผิด โดยกำหนดให้ความผิดระดับที่ 1 ตัด 1 คะแนน ไปจนถึงระดับสูงสุดระดับ 4 ตัด 4 คะแนน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. การตัด 1 คะแนน 

    • ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
    • ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก
    • ขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
    • ขับรถด้วยความเร็วเกินที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือตามเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้ในทาง
    • ขับรถบนทางเท้า โดยไม่มีเหตุอันสมควร
    • ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
    • ไม่หลบหรือจอด เพื่อให้รถฉุกเฉินได้ผ่านก่อน
    • ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว
    • ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือมีการเปลี่ยนแปลง / ปิดบังบางส่วนของป้ายทะเบียน
    • ไม่ติดป้ายภาษี
  2. การตัด 2 คะแนน

    • ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือเครื่องหมายจราจรที่มีคำว่า “หยุด”
    • ขับรถย้อนศร
    • ขับรถระหว่างโดนพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่
  3. การตัด 3 คะแนน

    • ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
    • ขับผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
    • ขับรถชนแล้วหนี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน รวมถึงไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
  4. การตัด 4 คะแนน

    • ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอื่น ๆ
    • ขับรถในขณะเสพยาเสพติดให้โทษ
    • แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
    • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น หรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

หากทำผิดกฎหมายจราจรใหม่ใน 20 ฐานความผิด ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ หรือไม่ชำระค่าปรับจราจรจะถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1-4 คะแนน (ขึ้นอยู่กับความผิดที่กระทำ) และหากได้รับใบสั่งและไม่ชำระค่าปรับโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะถูกหัก 1 คะแนน ดังนั้น หากได้รับใบสั่งก็ควรรีบดำเนินการชำระค่าปรับให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด

จ่ายค่าปรับจราจรได้ที่ไหนบ้าง

เรามาดูกันว่าในกรณีที่เกิดโดนใบสั่งขึ้นมาจะต้องไปจ่ายค่าปรับยังไง และต้องจ่ายค่าปรับจราจรที่ไหนบ้าง

  • แอปพลิเคชัน Krungthai Next
  • เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
  • ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
  • CenPay ของเครือ CENTRAL Group
  • จุดบริการที่มีเครื่องหมาย PTM ที่แสดงถึงหน่วยบริการชำระเงินค่าปรับตามใบสั่งโครงการ PTM
  • สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1193

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่จ่ายค่าปรับจราจร

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่จ่ายค่าปรับจราจร ?

โดยปกติแล้วในใบสั่งจะมีวันที่กำหนดเอาไว้ว่าจะต้องจ่ายค่าปรับภายในวันไหน ในกรณีที่ไม่ไปจ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเพราะไม่มารายงานตัว แถมยังถูกอายัดทะเบียนด้วยเช่นกัน โดยจะมีค่าปรับเพิ่มขึ้นมา 1,000 บาทอีกด้วย หากติดค่าปรับจราจรเอาไว้ ไม่ไปจ่ายเลย ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ในอนาคต และหากยังไม่ชำระค่าปรับจราจรอีกอาจมีการดำเนินการทางกฎหมาย เช่น การออกหมายเรียก หรือการดำเนินคดีเพื่อบังคับชำระค่าปรับ

การชำระค่าปรับจราจรตามกำหนดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา และผลกระทบทางกฎหมายที่อาจตามมา การปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและปัญหาเพิ่มเติม

ใบสั่งเกินกำหนด ต้องไปจ่ายค่าปรับจราจรที่ไหน

ใบสั่งเกินกำหนด ต้องไปจ่ายค่าปรับจราจรที่ไหน ?

ถ้าใบสั่งเกินกำหนดสามารถนำไปจ่ายค่าปรับจราจรได้ที่ทุก สน. ทั่วประเทศ โดยไม่สามารถจ่ายค่าปรับออนไลน์ได้นะ 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นกฎหมายจราจรใหม่ 2567 ที่คนใช้รถต้องรู้ไว้ หากฝ่าฝืนจะมีทั้งโทษค่าปรับ หรือจำคุก รวมไปถึงการโดนตัดแต้มความประพฤติใบขับขี่อีกด้วย ซึ่งหากคะแนนความประพฤติเหลือ 0 คะแนน จะได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ และต้องเข้าอบรมเพื่อที่จะทำการขอคืนคะแนนแต้มใบขับขี่ 

ดังนั้นทุกครั้งที่ใช้รถใช้ถนนควรเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดกัน และหากสนใจสมัคร GrabCar GrabFood หรืออยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสมัครได้ที่นี่