เจมมี่ โค ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ Grab รวมเป็นวิทยากรในงาน Trade and Development Regional Forum 2022: Futuristic Asia-Pacific

เจมมี่ โค ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ Grab รวมเป็นวิทยากรในงาน Trade and Development Regional Forum 2022: Futuristic Asia-Pacific ชี้เทคโนโลยีจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมแนะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจะเป็นกุญแจที่จะช่วยให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

เจมมี่ โค ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ Grab ได้รับเกียรติเป็นวิทยาการในงาน Trade and Development Regional Forum 2022: Futuristic Asia-Pacific ในหัวข้อ Future of Technology ซึ่งจัดโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) โดยมีผู้ร่วมเสวนาเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ startup และเทคโนโลยีนวัตกรรม สำหรับโลกอนาคต อันได้แก่ ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค, Datuk Dr. Mohd Yusoff Sulaiman, ประธาน และ ซีอีโอ, Malaysian Industry-Government Group for High Technology หรือ MIGHTและ คุณ Tony Kim: SERVIR Project Manager, NASA ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

สรุปสาระสำคัญจากการบรรยาย

  1. คุณเจมมี่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลา 10 ปีต่อจากนี้ ซึ่ง Grab ก็มีการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อยู่แล้วในปัจจุบัน อันได้แก่

1.1            Artificial Intelligence: AI หรือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

1.1.1     ใช้ประโยชน์จากการเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจาก AI เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาและปรับปรุงกระบวนการในการทำงานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เช่นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดระบบการจ่ายงานให้กับกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ (Batching efficiency) และการเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเลือกเส้นทางการเดินรถ (Route optimization)

1.1.2     ใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเครดิตเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

1.1.3     ช่วยในการเก็บข้อมูลเพื่อลดการฉ้อโกง (Anti-fraud)

1.1.4     เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการทำงานต่างๆ และช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ

1.1.5     ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการทำให้บริการจัดส่งสิ่งของมีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวมากขึ้น สามารถลดการปล่อยมลพิษจากการเดินทางได้

1.2            Low carbon technologies: หรือ เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ

1.2.1     เพื่อให้โลกสามารถมีส่วนในการชะลอผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเรื่องสภาพอากาศ ผ่านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง

1.2.2     การเพิ่มการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า

1.2.3 การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลต่างๆ (Data centers) ที่จะมีการเพิ่มจำนวนขึ้นและขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

1.3       โซลูชั่นด้านการเดินทางใหม่ๆ

1.3.1    ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการอพยพย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมืองเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โซลูชั่นด้านการเคลื่อนย้ายผู้คนใหม่ๆ จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจรวมไปถึง เทคโนโลยีอย่าง ยานยนต์ไร้คนขับ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่สำหรับการเดินทางในรูปแบบอื่นๆอีกด้วย

  1. นอกจากนี้คุณเจมมี่ยังได้แลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะด้านแนวทางการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคสามารถใช้โอกาสจากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า

2.1 หลักการของการทำงานร่วมกันต้องมีกรอบและแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุดจากความร่วมมือนั้นๆ โดยต้องให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์มากกว่าขั้นตอนและกระบวนการทำงาน ผ่านการทดลองวีธีการและรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละฝ่ายให้ได้มากที่สุด

2.2 ในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะเห็นแนวทางการใช้ แซนด์บ็อกซ์การกำกับดูแล (Regulatory Sandbox) เพิ่มมากขึ้น เพื่อหาแนวทางและจุดสมดุลในการทำงานร่วมกันที่เหมาะสม โดยผู้กำหนดนโยบายสามารถร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อทดสอบนวัตกรรมและรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ใช้โดยตรง เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น