บ้านส้มตำ ส้มตำสุดซี้ด และอีกหลากหลายเมนูรสเด็ดสุดแซ่บ GrabFood ชวนสั่ง

ความอร่อยของ ส้มตำ และเมนูสุดแซ่บต่างๆ ที่ทำให้ก้าวสู่ปีที่ 15 บ้านส้มตำ Bann Somtum

จุดเริ่มต้นบ้านส้มตำนั้นเกิดจากเจ้าของร้านที่ทำงานเป็นลูกจ้าง จากพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบิน สู่พนักงานออฟฟิศในบริษัทที่มั่นคง แต่ด้วยความคิดที่อยากจะลุกขึ้นมาทำธุรกิจเพื่อจะได้เป็นนายของตัวเอง อย่างการเปิดร้านส้มตำ  ในขณะที่เจ้าของร้านอายุ 45 ปี และด้วยคำแนะนำที่เป็นแรงสนับสนุนจากคุณแม่เจ้าของร้าน จึงได้ถือกำเนิดร้าน บ้านส้มตำ Bann Somtum สาขาแรกแถวย่านพุทธมณฑลสาย 2 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยรสชาติ และการตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนกับร้านส้มตำในแบบที่เห็นกันทั่วไป จนสามารถขยับขยายไปสู่สาขา 2 ที่พระราม 5 และกลายมาเป็นสาขาที่ 3 ในเมืองอย่างสาทร เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนขยายสาขาเปิดไปแล้วกว่า 9 สาขาในปัจจุบัน GrabFood จึงอยากพามาลิ้มลองเหล่าเมนูเด็ดของทางร้าน จะสุดซี้ด รสแซ่บ ถึงใจกันขนาดไหนบ้างลองมาสั่งชิมตาม GrabFood กันได้เลย

    1.ตำไทย

ตำไทย เมนูทั่วไปของร้านส้มตำนี่แหละ ต้องทำให้รสเด็ดด้วยสิไม่งั้นใครจะเข้าร้าน จริงไหม? ด้วยวัตถุดิบต่างๆ คุณภาพไม่มีลดหย่อน เช่นน้ำมะนาว ก็ได้จากมะนาวแท้ๆ เท่านั้น ไม่มีมะนาวขวดหรือมะนาวผง โดยเครื่องเคราในการตำส้มตำทั้งหมดที่ถูกคลุกเคล้าในครกนั้น ทางร้านมีเคล็ดลับที่เจ้าของร้านให้แม่ครัวทุกๆ สาขานั้นตำเป็นจังหวะ เสียงตำก็เท่ากับน้ำหนักมือ พอตำไปถึงจังหวะนี้ก็รู้ว่าจะคลุกได้ตอนไหน จึงทำให้ตำไทยทุกๆ สาขาของทางร้านมีมาตรฐานเหมือนกัน เป็นส้มตำสุดซี้ดรสเด็ดที่อร่อยทุกครั้งเมื่อได้กิน

 

     2. ยำวุ้นเส้น 

จากเมนู ตำไทย ซึ่งการันตีรสเปรี้ยวจากมะนาวสดๆ ไม่มีการใช้มะนาวขวดหรือมะนาวผงนั้น ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในความอร่อยเด็ดสุดจี๊ดจ๊าดของเมนู ยำวุ้นเส้น ได้เป็นอย่างดี รับรองความหอมกลิ่นมะนาวแท้ๆ ของเมนูจานเด็ดนี้ ทั้งวุ้นเส้น หมูสับ กุ้ง หอมแดง ต้นหอม มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ และผักอื่นๆ คลุกเคล้าด้วยกันผสานกับการปรุงรสน้ำยำสูตรเด็ด ออกมาเป็น ยำวุ้นเส้น สุดอร่อยให้ได้สั่งกินกัน

      3. ยำหมูย่าง 

หมูย่าง เฉยๆ ก็ว่าอร่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเบื่อกินหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว มาลองเมนู ยำหมูย่าง ของทางร้านสิ รับรองไม่ผิดหวัง ด้วยหมูย่างที่ผ่านการย่างจนสุกได้ที่แต่ไม่สุกแห้งจนเกินไป ยังมีความฉ่ำน้ำในเนื้อหมู นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ปรุงรสด้วยน้ำยำและคลุกกับเครื่องยำที่ประกอบด้วยผักต่างๆ โดยมีความน่าสนใจตรงที่ทางร้านจะใส่มะเขือเปราะฝานบางๆ เข้าไปคลุกเคล้าด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะเข้ากันได้ดี คุณจะได้ Texture แปลกใหม่จากมะเขือเปราะที่มีเพิ่มเข้ามาในเมนูจานเด็ดนี้

      4. ต้มยำปลาช่อน 

ปลาช่อนหั่นขวางชิ้นโต ในน้ำต้มยำแบบน้ำใสนี่สิ ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แค่กลิ่นหอมมะนาวลอยนำมา ก็รู้ได้ว่าเมื่อซดน้ำต้มยำร้อนๆ จะคล่องคอขนาดไหน บวกกับเนื้อปลาช่อนเมื่อตักเข้าปากเคี้ยวได้คำโตๆ ได้อย่างเต็มปาก เนื้อปลาช่อนจะหวานๆ มันๆ เข้ากับกับน้ำต้มยำรสเปรี้ยวนำ เผ็ดและเค็มตามอย่างลงตัวกำลังดี

      5. สละลอยแก้ว 

ปิดท้ายเป็นของหวาน ด้วยเมนูของหวานอย่างไทย ขนมหวานไทยเย็นๆ นี่แหละก็ทำให้สดชื่นรื่นรมย์ได้ไม่แพ้พวก บิงซู หรือ ไอศกรีม เลย ต้องขอเคลมแรงๆ เอาไปก่อนเลยว่าผลไม้ของไทยก็นำมาทำเป็นขนมหวานได้อร่อยสดชื่นไม่แพ้ขนมหวานอื่นๆ เขาล่ะ ด้วยสละที่มีรสอมเปรี้ยวอมหวานและมีกลื่นหอมอ่อนๆ แกะเปลือกเอาแต่เนื้อฉ่ำๆ มาใส่ถ้วย ใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็ง กินหลังมื้ออาหารรสแซ่บๆ ให้ความรู้สึกเย็นชื่นใจ ดับความเผ็ดร้อนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

 

หลากหลายจานเด็ดจาก บ้านส้มตำ Bann Somtum ไม่ว่าจะตำไทย ยำวุ้นเส้น ยำหมูย่าง ต้มยำปลาช่อน สละลอยแก้ว ดูน่าอร่อยทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ? แต่หากคุณไม่สะดวกเดินทางออกไปข้างนอกเพื่อรับประทานถึงร้านสาขาต่างๆ ของบ้านส้มตำก็ให้ GrabFood ช่วยสั่งได้  เพียงคุณสั่งอาหารกับ GrabFood เราพร้อมจัดเสิร์ฟส่ง Delivery จากที่ร้านมาถึงมือคุณให้เอง สะดวกแบบนี้ไม่ควรพลาดบริการสั่งอาหาร Delivery สุดยอดเยี่ยมจาก GrabFood ขอเชิญชวนมาสั่งกันได้เต็มที่เลย!